Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid

13.11.2567
โดย Brian Crecente ผู้เขียน
Off the Grid เป็นเกมที่เยอะ

เกมนี้ได้เปิดให้เล่นระหว่างพัฒนาเมื่อเดือนที่แล้ว โดย Gunzilla ได้พัฒนาเกมยิงที่มีความแม่นยำสูงที่น่าติดตามอย่างมาก: ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพยายามฆ่าอีกฝ่ายในเกาะที่สร้างขึ้นมาภายในเกม โดยที่ผู้เข้าแข่งไม่เพียงแต่สมัครใจยอมสู้จนตายเท่านั้น แต่พวกเขายังยอมตัดแขนขาและใส่อุปกรณ์ไซเบอร์เนติกส์เข้าแทนด้วย

ในการเล่นจริง นั่นหมายความว่าผู้เล่นสามารถเพิ่มและสลับทักษะ (อย่างการวิ่งเร็วดุจสายฟ้า การพรางตัว ปืนยิงของเหลว และอีกมากมาย) โดยการหยิบแขนขาจากผู้ที่เพิ่งถูกฆ่า (หรือถูกตัดแขนขา) ในสนามรบขึ้นมาใช้

พวกเขาอาจแขนขาขาดได้โดยการยิงอย่างแม่นยำ ทำให้เสียแขนขาไป แต่ยังมีชีวิต นอกจากนี้ยังมีเจ็ตแพ็ก ตะขอเกี่ยว และแผนที่ที่ในบางครั้งก็ไต่ขึ้นแนวตั้งได้พอๆ กับเดินตามแนวราบ และยังมีเรื่องราวที่น่าติดตามของ Off the Grid สอดแทรกเขามา โดยเล่าผ่านการผสมผสานเกมและวิดีโอไลฟ์แอ็กชันระหว่างโหลดเข้าด้วยกัน
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - ภาพ
การออกแบบภาพและงานศิลป์โดยรวมของเกมได้รับแรงบันดาลใจเป็นอย่างมากจากภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟแนวดิสโทเปียปี 2013 เรื่อง Elysium เนื่องจาก Neill Blomkamp นักเขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เนิ่นๆ และอย่างต่อเนื่อง

แล้วก็ยังมี NFT (สอดแทรกเข้ามาในกลไก Extraction ของเกม) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้เล่นติดตามสิ่งของที่พวกเขาต่อสู้อย่างหนักเพื่อเอาชีวิตรอดบนเกาะ

ทั้งหมดนี้ (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวภูมิหลังที่บ้าบิ่น, การเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร, NFT, การผสมผสานวิธีการเคลื่อนไหว และวิธีที่โดดเด่นในการเพิ่มพลังให้ตัวละครแทนที่จะวัดกันที่ปืนที่ใช้อย่างเดียว) เป็นรองการเคลื่อนไหวและควบคุมที่ลื่นไหลนุ่มนวล เพื่อรับรองว่าเกมยิงเกมหนึ่งจะไปได้ดีในตลาดที่มีเกมอย่าง Call of Duty, Battlefield, Apex Legends, PUBG, Fortnite และเกมอื่นๆ อีกมากมาย
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - ด่าน
นั่นเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็จากมุมมองของ Blomkamp ในปัจจุบัน ผู้กำกับผู้นี้กำลังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่าเรื่องราวในแนวที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้พูดคุยกับเราเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเขาในเกมที่ไม่ธรรมดา สาเหตุที่เขาสนใจวิดีโอเกมมาก และความหวังของเขาที่มีแต่เกมนี้โดยเฉพาะ
 

Elysium


สำหรับ Blomkamp ทุกๆ อย่างเริ่มต้นเมื่อประมาณสี่ปีที่แล้วพร้อมกับ Elysium

Vlad Korolev ซึ่งเป็น CEO และผู้ก่อตั้งร่วมของ Gunzilla "พูดเสมอว่าเขาต้องการให้ Elysium เป็นเกมสำหรับอ้างอิง" Blomkamp กล่าว "เขาหมกหมุ่นไปกับไอเดีย คุณก็รู้ แบบว่าฉากไซเบอร์พังก์ที่ถูกแดดส่องจนสีซีด"

Blomkamp กล่าวว่าเราชอบแนวคิดมากๆ ซึ่งกลายเป็นว่าเขาก็เปิดกว้างต่อการเข้ามาทำงานกับวิดีโอเกม นักเขียนและผู้กำกับได้เริ่มทำงานช่วงแรกๆ ในส่วนเอฟเฟกต์ภาพ ในตำแหน่งศิลปินและนักสร้างแอนิเมชัน 3 มิติ

"มันส่วนหนึ่งของความสร้างสรรค์ที่ผมคิดถึงเสมอ เมื่อทำงานในวงการภาพยนตร์" เขากล่าว "เหมือนได้เข้าถึงมากกว่าการทำคอมพิวเตอร์กราฟิกทั่วๆ ไป และผมก็หมกมุ่นกับกราฟิกแบบเรียลไทม์ด้วย อย่าง Unreal Engine หรือ Unity ในสมัยนั้น"

เมื่อ Blomkamp ได้รับโอกาสในการช่วยพัฒนาเกม เขาจึงกลับมาทำในฐานะผู้ที่อยากกลับมาสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 3 มิติอีกครั้ง
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - ระบบการเล่น
"ผมอยากทำงานกับเกม แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะว่าผมคิดว่าผมสามารถสร้างเกมได้ แต่ผมแค่คิดว่าผมจะได้เล่นกราฟิก 3 มิติ" เขากล่าว

แนวคิดของเกม (โดยเฉพาะแนวคิดการสับเปลี่ยนแขนขาไซเบอร์) ได้สรุปกันจบตั้งแต่ก่อนที่ Blomkamp เข้ามาเกี่ยวข้อง เขากล่าว และพวกเขาก็ยังกล่าวถึงนักเขียนแนวไซไฟและแฟนตาซีสัญชาติอังกฤษ Richard K. Morgan ที่ได้ทำงานกับแนวคิดช่วงแรกๆ ของเนื้อเรื่อง

"ผมจึงต่อยอดจากไอเดียเหล่านั้นด้วยสิ่งที่ผมสนใจ และนั่นก็ค่อนข้างจะเหมือน Elysium และสิ่งที่ Vlad ต้องการ" เขากล่าว "สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราไปถึงจุดหนึ่ง แล้วเราก็เปลี่ยนโทนโดยเจตนา เพราะเราคิดกันว่าทุกอย่างจะเป็นแบบ Battle Royale จริงๆ" มันเลยคล้ายกับ The Hunger Games หรือ The Running Man นั่นแหละ"
 
 

การเสียดสีอย่างเจ็บแสบ


ภาพยนตร์ของ Blomkamp ตั้งแต่ District 9 ไปจนถึง Demonic ล้วนเป็นที่จดจำจากการผสมผสานสไตล์การถ่ายสารคดีแบบ Low-fi เข้ากับเอฟเฟกต์ที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ที่น่าตื่นตา อีกทั้งหนังทุกเรื่องยังมีแนวโน้มที่จะหยิบยกประเด็นที่ลึกซึ้งกว่าขึ้นมา เช่น การแบ่งแยกสีผิว (District 9) การแบ่งชนชั้น (Elysium) หรือศาสนา (Demonic) ใน Off the Grid ทีมงานเน้นไปที่ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเสียดสีรุนแรงและเต็มไปด้วยความรุนแรงและอาวุธต่างๆ อย่างที่พบในภาพยนตร์อย่าง RoboCop

ในวิดีโอเปิดตัวเกม (เป็นคอมพิวเตอร์กราฟิกทั้งหมด) ผู้เล่นจะได้ทำความรู้จักกับโลกของ Off the Grid ซึ่งเป็น "สนามประลองในชีวิตจริงอัดแน่นไปด้วยความเร้าใจเหมือนเกมยิงปืนออนไลน์ แต่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง" คลิปของผู้เล่นที่ระเบิดและยิงกันและกัน แทรกด้วยคลิปปฏิกิริยาจากผู้เล่นที่นั่งอยู่บนโซฟาขณะที่พวกเขารับชมการสังหารอันนองเลือดนี้บนทีวี

อาสาสมัครของเกมจะเลือกที่จะตัดแขนขาของตนเองออกเพื่อให้สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ ซึ่งพวกเขามีโอกาสชนะเงินรางวัลสูงสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์ วิดีโอตัวอย่างยังแสดงภาพของรายการข่าวที่ตอบสนองต่อการสังหารโหด แขนขาที่ถูกตัดออก และฉากการฟื้นตัวจากการใช้แขนขาไซเบอร์
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - Kasper
"ผู้คนเหล่านี้เป็นเพียงคนธรรมดาที่เลือกที่จะบ้าคลั่ง" ผู้ประกาศข่าวคนหนึ่งกล่าว

วิดีโอตัวอย่างน่าหดหู่มากขึ้นเมื่อเริ่มพูดถึงการช่วยชีวิตผู้เล่นหลายคนจาก "เหตุการณ์เสียชีวิตที่รุนแรง พวกเขาสามารถต่อเทคโนโลยีนั้นใหม่จากเนื้อเยื่อหลักได้"

เห็นได้ชัดเจนจากวิดีโอตัวอย่างเลยว่าเกมนี้เป็นปรากฏการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง และมีคนจำนวนหนึ่งที่ชอบดูการแข่งขันนี้ แต่บางคนก็มองว่าการแข่งนี้เป็นความเสื่อมทราม

วิดีโออีกคลิปนั้นเผยให้เห็นอินฟลูเอนเซอร์ที่บอกผู้ชมอย่างกระตือรือร้นว่าเธอกำลังจะไปที่เกาะนั้น เมื่อวิดีโอจบลง เธอได้พ่ายแพ้ไปสองสามครั้ง และเธอก็ดูไม่มีความสุขเลย

"นี่คือสถานที่จริง และทุกอย่างที่เราเพิ่มเข้ามา รวมถึงการอัปเดตแต่ละครั้งที่เราจะเปิดตัวในอนาคตจะตอกย้ำแนวคิดที่ว่านี่คือเกมแนว Battle Royale ในโลกแห่งความเป็นจริง" Blomkamp กล่าว "จึงมีการเสียดสีมากมายที่แฝงอยู่ในนั้น และการเสียดสียังมีอารมณ์ขันหลายระดับที่จะเริ่มแทรกซึมเข้าไปในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ"

Blomkamp กล่าวว่าเขาไม่แน่ใจว่าเกมจะยกประเด็นในสังคมขึ้นมาเหมือนภาพยนตร์ของเขาหรือไม่ แต่ว่าเกมนี้ "รู้ตัวเองอย่างแน่นอน 1,000% ว่านี่คือวิดีโอเกมที่มีความรุนแรง" นอกจากนี้เกมนี้ยังเป็นเกมที่มี "วัฒนธรรมที่เป็นอเมริกันอย่างมากในด้านวัฒนธรรม" อีกด้วย

การเล่าเรื่องของเกมนั้นในตอนต้นนั้นน่าแปลกใจ อย่างในวิดีโอตัวอย่างจะมีฉากแอ็กชั่นสองสามฉากที่ถูกนำออกฉายภายนอกเกม แถมยังมีวิดีโอเล็กๆ ที่เล่นในขณะที่แผนที่กำลังโหลด

เราได้ชี้ให้เห็นในบทสัมภาษณ์ของเราว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้เห็นวิดีโอระหว่างโหลดเหล่านั้น (ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างไลฟ์แอ็กชันกับคอมพิวเตอร์กราฟิก) เราได้เห็นก็ต่อเมื่อเราได้เล่นเกมนี้ไปสักพักหนึ่งแล้ว เพราะได้กดข้ามวิดีโอตอนแสดงขึ้นมาจนชิน กว่าจะได้ดู ก็เป็นเกมที่สามหรือสี่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นไลฟ์แอ็กชันและสงสัยว่าวิดีโอนั้นคืออะไร
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - แผนที่
Blomkamp ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเลย จริงๆ แล้ว เขาบอกว่านั่นคือสิ่งที่เขาคาดหวังไว้

"คุณทำถูกต้องแล้ว" เขากล่าว "สิ่งสำคัญคือประสบการณ์ของผู้เล่น ใช่ไหมล่ะ พวกเขาเข้าเกมมาเล่น ถ้าคุณทำพลาด พวกเขาจะไม่เล่นเลย ดังนั้นวิดีโอทั้งหมด เรื่องราวเพิ่มเติมที่เราต้องการใส่ เราต้องการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณไม่ดูก็ได้ และมันจะไม่ส่งผลต่อเกมของคุณ ถ้าทำไม่ได้แบบนี้เราคงผิดหวังมาก

"โบนัสก็คือถ้าคุณอยากดู คุณก็ดูได้"

มันน่าติดตามมากและนำเสนอได้ดี คล้ายกับดูหนังของ Blomkamp เลย เขาบอกว่าเขาเพิ่งกลับมาจากดูไบ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาใช้ถ่ายทำวิดีโอแทรกเหล่านี้
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - ไลฟ์
"เราถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ว่าผู้เล่นจะทำอะไร เราก็ตามใจผู้เล่น" เขากล่าว "หากมันช่วยเสริมประสบการณ์ได้ก็ถือว่าดี แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์หลัก สิ่งสำคัญคือการยิงผู้เล่นคนอื่น"
 

ไลฟ์แอ็กชันสุดระทึก


วิดีโอระหว่างโหลดทั้งหมดเป็นการผสมผสานระหว่างไลฟ์แอ็กชันและคอมพิวเตอร์กราฟิก ในขณะที่ฉากเล่าเรื่องและวิดีโอตัวอย่างต่างๆ เป็นกราฟิกในเกมทั้งหมด Blomkamp กล่าวว่าการผสมวิดีโอสองประเภทเข้าด้วยกันนั้นมาจากการพูดคุยกันอย่างยาวนาน ตอนแรก เขาไม่ชอบแนวคิดที่จะมีไลฟ์แอ็กชันเข้ามาผสมด้วย แต่เนื่องจากวิดีโอแสดงในหน้าจอโหลด เขาจึงรู้สึกว่ามันเหมาะสมดี

"ผมถ่ายทำให้ออกมาเป็นแนวสารคดี" เขากล่าว "มันคล้ายกับ District 9 มาก และในบริบทนี้ ผมชอบมากจริงๆ เพราะมันเหมือนเป็นการเปิดมุมมองที่สมจริงให้เราเห็นภูมิหลังของโลกนี้"

ยังไม่มีการเจาะลึกเรื่องราวในเกมในเวอร์ชันเล่นระหว่างพัฒนา Blomkamp กับทีมงานกำลังสร้างเรื่องราวที่จะร้อยเรียงเข้ากับฉากไลฟ์แอ็กชันของ Battle Royale อย่างลงตัว

"พวกเรากำลังยุ่งอยู่กับการสร้างวิดีโอสำหรับเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่คุณสามารถรับชมได้ในระหว่างต่อสู้อย่างดุเดือด" เขากล่าว "เราพยายามที่จะแทรกภารกิจเนื้อเรื่องเข้ามา ที่คุณสามารถทำได้ขณะต่อสู้ ไม่ว่าจะในโหมด Extraction Royale หรือโหมด Battle Royale"

แนวคิดก็คือ เช่นเดียวกับวิดีโอระหว่างโหลด ผู้เล่นจะเลือกได้ว่าอยากให้ความสนใจกับเนื้อเรื่องย่อยที่ปรากฏขึ้นในเซสชันหรือไม่ เขากล่าวว่าทางเลือกนี้มีความท้าทายมากมาย รวมถึงวิธีการทำให้ผู้เล่นปลอดภัยระหว่างเกมขณะรับชมวิดีโอ วิธีที่คุณจัดการกับผู้เล่นในทีมที่คลาดจากกัน และวิธีที่คุณรักษาสมดุลของระดับความรู้ของผู้เล่นเกี่ยวกับเรื่องราวของเกมในกลุ่ม

"มันจึงทำให้เกิดความท้าทายที่น่าสนใจมากมาย แต่ผลลัพธ์อาจจะเจ๋งมาก" เขากล่าว

แนวคิดการเล่าเรื่องสำหรับโลกระหว่างเซสชัน Battle Royale นั้นมาจากซีอีโอของสตูดิโอ Vlad Korolev แผนปัจจุบันสำหรับเรื่องราวที่เล่านั้นไม่ได้มีแต่เพียงภูมิหลังว่าโลกมาถึงจุดที่มีเกมแนว Battle Royale ในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร แต่ยังรวมถึงเรื่องราวของผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ และความท้าทายที่พวกเขาเผชิญเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ใช่แค่ในการยิงต่อสู้เท่านั้น แต่รวมถึงในชีวิตประจำวันด้วย
 

ใบหน้าที่คุ้นเคย


ผู้บรรยายหลักสำหรับเกมในขณะที่คุณเล่นนั้นพากย์เสียงโดย Sharlto Copley ที่รวมงานกับ Blomkamp มายาวนาน (District 9, Elysium, Chappie) เมื่อรบบทเป็น Cobra แล้ว Copley จะออกคำสั่งและเหน็บแนมคุณแบบฮาๆ ตลอดแมตช์
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - Cobra
Blomkamp บอกว่าเขาต้องการให้เขาร่วมในเกมนี้ด้วย เพราะเขารู้สึกว่าเกมนี้จำเป็นต้องมีใบหน้า Cobra ไม่ได้เป็นเพียงแค่จ่าในเกมเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในตัวละครนำที่จะพาคุณเดินเนื้อเรื่องในเกมอีกด้วย

แม้ว่า Copley ไม่ใช่เกมเมอร์ตัวยง แต่เขาก็เคยเล่นเกม Counter-Strike กับ Blomkamp และทีมงานที่สตูดิโอใน Vancouver อีกทั้งยังเคยพากย์เสียงตัวละครให้กับ PAYDAY 4

"เขายอมเข้ามาร่วมด้วย เพราะการเสียดสีแนวที่เราต้องการทำเป็นแนวที่ Sharl กับผมสนใจ" Blomkamp กล่าว

อาจดูแปลกที่นักเล่าเรื่องที่เป็นที่รู้จักที่จะสนับสนุนเกมแบบที่เล่าเรื่องในแนวที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก Blomkamp กล่าวว่าคำตอบที่ง่ายที่สุดสำหรับเหตุผลที่เขาตัดสินใจร่วมงานกับเกมแทนการทำงานที่เน้นการเล่าเรื่องมากกว่านี้ ก็คือเพราะมีคนขอให้เขาเข้ามาทำ และเขาก็ชอบเกมที่นำเสนอไปด้วย

แต่มีอีกเหตุผลหนึ่ง เขากล่าวเสริม

"ผมไม่แน่ใจว่าผมจะอยากเล่าเรื่องราวในวิดีโอเกมไหม" เขากล่าว "ผมอยากทำงานเกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมแบบ 3 มิติ ผมหลงใหลในกราฟิกแบบเรียลไทม์และแนวคิดที่จะสร้างสภาพแวดล้อม 3 มิติที่มีระแบบเสียงเป็นแบบ 3 มิติด้วย คุณได้ทำงานกับแผนกเสียง คุณได้ทำงานกับกราฟิกแบบเรียลไทม์ที่มีแสงกระทบ การสะท้อนแสง และการกระจายแสง และมันเป็นสภาพแวดล้อมที่เจ๋งมาก"

Blomkamp กล่าวเสริมว่าเกม Battle Royale จะให้คุณได้เล่นกับองค์ประกอบเหล่านี้
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - ตลาด
Blomkamp กล่าวว่าพวกเขากำลังผลักดัน MetaHumans ของ Unreal Engine ไปให้ถึงขีดสุด และเน้นการใช้ระบบต่างๆ อย่างระบบ Lumen Global Illumination และ Reflections ของเอ็นจิ้นอย่างมาก
 

NFT


เมื่อวางเลเยอร์ในระดับพื้นฐานบนลูปการเล่นเกมหลัก แนวทางการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ และกราฟิกอันน่าทึ่งของเกม เราพบว่าเกมสามารถนำ NFT เข้ามาได้ด้วย

ผู้พัฒนา Gunzilla พูดอย่างชัดเจนว่า Off the Grid ไม่ใช่เกม NFT แต่พวกเขาชี้แจงว่าเกมนี้เป็นเกม Battle Royale ที่มีองค์ประกอบ NFT เป็นทางเลือก ในขณะนี้ ก็ดูจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ไอเท็มทั้งหมดที่สกัดมาจากเกม (โดยการค้นหาและสกัดกล่อง Hex มาโหนด) จะเชื่อมโยงกับ NFT ที่ทำให้ไอเท็มแต่ละชิ้นไม่ซ้ำกัน หากผู้เล่นชำระเงินค่าสมัครสมาชิกในทำนองเดียวกับ Battle Pass ของเกมนี้ พวกเขาจะสามารถประกาศขายไอเท็มเหล่านี้ในตลาดเพื่อแลกเป็นโทเค็นคริปโต GUN ได้

ทั้งหมดนี้ทำงานคล้ายกับตลาดสำหรับสกินของ Counter-Strike 2 เว้นแต่ว่าสกินเหล่านี้ทั้งหมดเชื่อมโยงกับสกุลเงินดิจิทัลและบล็อกเชน การสร้าง NFT จะเกิดขึ้นในเกม ในขณะที่คุณปกป้องโหนดจากผู้เล่นคนอื่นๆ ในขณะที่โหนดทำการสกัด Hex ให้กับคุณ

Blomkamp กล่าวว่าบล็อกเชนและ NFT ที่เชื่อมโยงกับเกมนั้นเป็นแนวคิดดั้งเดิมตั้งแต่เขาเข้ามาเริ่มทำเกมนี้ เขากล่าวเสริมด้วยว่ามีผู้คนในสตูดิโอที่มีความรู้ที่ลึกซึ้งกว่าเขามากเกี่ยวกับการทำงานของมัน แต่สำหรับเขา ทุกอย่างดูจะสมเหตุสมผล

"มันทำให้ผมนึกถึงสกิน CS:GO" เขากล่าว "กล่าวง่ายๆ คือมันมอบความสามารถในการติดตามไอเท็มของคุณได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยให้คุณทราบถึงระดับความหายาก และให้ตลาดกำหนดมูลค่าได้" สำหรับผมแล้วนี่ดูเป็นข้อดี ผมเลยไม่แน่ใจว่ามีข้อเสียอะไรบ้าง ทำไมคุณถึงไม่ต้องการเข้าถึงทุกสิ่งที่คุณสะสมมาจากการเล่นเกมหลายร้อยชั่วโมงล่ะ"

เขากล่าวเสริมว่าเมื่อเกมเปิดตัวแล้ว น่าจะมีกลยุทธ์ในการอธิบายให้ผู้เล่นทราบว่าองค์ประกอบ NFT ในเกมนั้นทำงานอย่างไร

ท้ายที่สุด Blomkamp กล่าวว่า เขาหวังว่าผู้คนจะสนใจตัวเกมมากกว่าระบบ NFT ที่คุณจะให้ความสนใจหรือไม่ก็ได้
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - Blomkamp
"ผมหวังว่าพวกเขาจะพูดคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาชอบในเกมและแนวทางที่จะทำให้เกมดีขึ้นไปอีก" เขากล่าว "ผมไม่อยากให้ NFT เข้ามาขัดขวางงานอื่นๆ ที่ทำมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเพื่อสร้างเกมนี้"
 

อนาคตข้างหน้า


เมื่อผู้กำกับที่คุ้นกับโลกเสมือนจริงของวิดีโอเกมและเอฟเฟกต์ภาพของการสร้างภาพยนตร์หันมาสร้างวิดีโอเกม ก็อดถามไม่ได้ว่าจะมีการสร้างภาพยนตร์ด้วยหรือไม่

"ผมคิดว่าเพราะเกมนี้มีเนื้อหาเสียดสีเยอะมาก และมันยังอิงถึง The Running Man และ RoboCop และภาพยนตร์ที่ผมชอบหลายๆ เรื่องที่มีสภาพสังคมเช่นนี้ ผมก็เลยอยากสร้างหนังด้วย" Blomkamp กล่าว "แต่การทำให้เกมนี้เป็นเกมที่เหล่าเกมเมอร์ชื่นชอบและประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก และเป็นงานเต็มเวลาของผม

"หากเราไปถึงจุดนั้น และเรารู้สึกว่าผู้คนรู้จักพอที่จะทำหนังฟีเจอร์ได้ ก็คงจะเจ๋งมากเลย"

ในขณะนี้ Blomkamp แบ่งเวลาระหว่างการทำเกมและภาพยนตร์

"ผมคิดว่าแบ่งกันครึ่งๆ นะ" เขากล่าว "ผมกำลังคิดๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องหนึ่งอยู่ในตอนนี้ ผมยังบอกไม่ได้ว่าคือเรื่องไหน ผมต้องทำให้ได้ดีและคิดออกก่อน"
Neill Blomkamp ผู้กำกับ District 9 กล่าวถึงการเสียดสีที่เจ็บแสบเป็นพิเศษใน Off the Grid - ฉากเนื้อเรื่อง
แม้ว่าภาพยนตร์สองเรื่องสุดท้ายของเขา (Demonic และ Gran Turismo) จะไม่ใช่แนวไซไฟ แต่ Blomkamp ก็กล่าวแนวไซไฟยังคงเป็นภาพยนตร์แนวหลักที่เขาสนใจ

แล้วการนำเสนอครั้งแรกต่อ Blomkamp ล่ะ แนวคิดคือหนัง Elysium ปี 2013 ของเขาจะเป็นจุดอ้างอิงหลักของเกม

"หากมองกันที่ภาพ ถ้าคุณกดปุ่มหยุดพักเกมในช่วงใดก็ตาม เช่นเดียวกับที่ผมทำ เกมจะมีภาพที่ให้ความรู้สึกแบบ Elysium เลย เพราะนั่นคือที่มาของการออกทั้งหมดตั้งแต่แรก" เหมือนตอนที่ผมออกแบบปืนร่วมกับ Nick กับตอนที่ผมออกแบบชุดเสื้อผ้าร่วมกับ Nick"

แต่เกมนี้ไม่ใช่หนังในเวอร์ชันที่เล่นได้ และนั่นก็ไม่ใช่เจตนาของเราด้วย

"ผมคิดว่าความแตกต่างที่สำคัญคือเรื่องเสียดสีที่เราพูดถึง" เขากล่าว "นี่คือการอ้างอิงตนเอง การรู้ตนเอง และเป็นเรื่องของวงการเกมที่คุณจะเห็นกันมากขึ้น สิ่งเหล่านี้แตกต่างจาก Elysium สำหรับผมแล้ว เกมนี้จึงเป็นเหมือนลูกผสมระหว่างไซเบอร์พังก์แห่งโลกความเป็นจริงกับการเสียดสี และนี่ก็คือสิ่งที่มันควรจะเป็น"

Off the Grid พร้อมให้เล่นระหว่างพัฒนาแล้วที่ Epic Games Store