แผนของ Marvel Rivals ที่จะมอบเกมยิงแนวฮีโร่ที่ดีที่สุดในมัลติเวิร์ส
2.12.2567
โดย Chris Baker ผู้เขียน
ไม่มีอะไรที่ไม่โจ่งแจ้ง ทุกคนที่รับชมต่างรู้ดีว่าจะได้เห็นเกมยิงแนวฮีโร่ที่มีจังหวะรวดเร็ว (ใช่แล้ว เกมยิงแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่มีจังหวะรวดเร็ว) ที่มาพร้อมกับการผสมผสานระหว่างฮีโร่และวายร้ายของ Marvel ที่หลากหลาย ตั้งแต่ฮีโร่สุดยอด ที่น่าทึ่ง ไปจนถึงสิ่งที่ชวนขนลุกและไร้เทียมทาน เราได้เห็นตัวละครร่วมมือกันและอาคารถล่ม ทั้งหมดนี้มีสไตล์งานศิลป์ที่สะดุดตา ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับอิทธิพลจากตะวันออกเท่านั้น แต่ยังมีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ให้กับตัวละครที่เราชื่นชมมานานหลายทศวรรษด้วย นอกจากนี้ ลูกเล่นใหม่นี้ยังขยายไปสู่เกมยิงแนวฮีโร่ด้วยเมื่อ Rivals เปิดตัวในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้
ทีมงานไม่ได้ปิดบังถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จาก Marvel อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นกุญแจสำคัญสู่ประสบความสำเร็จในแวดวงเกมยิงแนวฮีโร่ที่มีการแข่งขันสูงอยู่เสมอ "พวกเราถูกผลักดันให้ตอบคำถามว่า 'เกมนี้เล่าเรื่องอะไร'" หัวหน้าฝ่ายออกแบบเนื้อเรื่องของเกม Jinghua กล่าว "เนื่องจากเราเป็นเกมที่ใช้ชื่อ Marvel เราจึงต้องตอบสนองความคาดหวังเหล่านี้"
Rivals ไม่ได้แค่ทำให้ตัวละครดูเท่และแสดงพลังออกมาได้อย่างน่าประทับใจเท่านั้น (ยังได้เห็นแน่นอน) แต่ยังต้องทำให้เกมมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามอีกด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ใครก็ตามที่เริ่มเล่นเกมเพื่อสวมบทเป็น Hulk และหลบใยแมงมุมนานสองสามนาทีต้องประหลาดใจ NetEase ได้สร้างพื้นที่ของตัวเองใน Marvel Multiverse ไว้อย่างมั่นคง ตั้งแต่การออกแบบเกมโดยรวมไปจนถึงการเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เรื่องราวขับเคลื่อนทุกสิ่ง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างเกมถัดไปที่คุณจะอยากเล่นเป็นประจำเป็นเวลาหลายปี
"หลังจากการสร้างจักรวาลขึ้นแล้ว เราได้หารือกันอย่างถี่ถ้วนกับทีมงาน Marvel เกี่ยวกับการออกแบบเรื่องราว" Jinghua กล่าวต่อ "เรานำเสนอวิสัยทัศน์ของโลกในพื้นหลังที่น่าติดตาม ภาพที่สวยงามตระการตา และการถ่ายทอดเรื่องราวที่ทรงพลังอย่างไร้ขอบเขต เรามุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามวิธีการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิม ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบการเล่าเรื่องเข้ากับเกมเพลย์แบบ PvP ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลังความขัดแย้ง และเติมความซับซ้อนให้กับทุกแง่มุมของเกมของเรา"
ทางเลือกแสนคลาสสิก
ผู้เล่นเกมยิงแนวฮีโร่น่าจะคุ้นเคยกับเกมเพลย์ PvP ที่ Jinghua กล่าวถึงเป็นอย่างดี Rivals เป็นการผสมผสานการต่อสู้แบบ 6 ต่อ 6 กับมุมมองบุคคลที่สาม ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจะเผชิญกับความโกลาหลที่ตามมา ด้วยการผสมผสานคลาสต่างๆ ได้แก่ Vanguard, Duelist และ Strategist "การเลือกทีม ‘ที่ดีที่สุด’ อย่างชัดเจนถือเป็นเรื่องท้าทาย" Zhiyong หัวหน้านักออกแบบการต่อสู้กล่าว "ในการเล่นระดับสูง การเลือกจะขึ้นอยู่กับการจัดตัวผู้เล่นของฝ่ายตรงข้าม และบทบาทที่เพื่อนร่วมทีมของเราอยากเล่น" การตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงได้นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกมน่าติดตามและมีความหลากหลาย"
การเลือกคลาสให้กับตัวละครดูเหมือนกรณีหนึ่ง (จากไม่กี่กรณี) ที่ NetEase ดัดแปลงฮีโร่ของ Marvel ให้สอดคล้องกับความต้องการของระบบเกมเพลย์ แทนการปรับเกมเพลย์ให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่องของ Rivals ตัวละครบางตัวรับบทบาทตามที่คุณคาดเดาได้: Thor ผู้แข็งแกร่งที่สู้รบในสังเวียนด้วยความแม่นยำราวกับเทพเจ้าในบทบาท Vanguard, Scarlet Witch ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในฐานะ Duelist ผู้ใช้เวทมนตร์ หรือ Loki ที่คอยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม (หรือแผนการของเขาเอง) ด้วยอุบายอันชาญฉลาดในบทบาท Strategist
อย่างไรก็ตาม แม้แต่การเลือกคลาสแบบไม่ต้องคิดมากอย่าง Hulk ก็อาจจะไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่างที่คุณคิด "เมื่อเป็น Vanguard ความสามารถของ Hulk ได้รับการปรับแต่งเพื่อเน้นย้ำถึงความอึดที่น่าทึ่งและความสามารถในการป้องกันของเขา" Zhiyong กล่าว ตัวละครนี้ไม่เพียงแต่เป็น Hero Hulk เท่านั้น แต่ยังมาในร่าง Monster ที่ทรงพลังสุดๆ หรือแม้แต่ Banner ซึ่งเป็นมนุษย์ผู้อ่อนแอ ที่คอยยิงปืนลำแสง "การกระโดดซูเปอร์จัมป์ของเขาช่วยให้ไล่ตามศัตรูหรือถอนตัวจากการต่อสู้ได้อย่างคล่องตัว ในขณะที่ท่าไม้ตายสุดยอดของเขาจะสร้างความเสียหายได้อย่างมาก" การดัดแปลงของ Vanguard นี้ช่วยให้เราเน้นย้ำถึงความสามารถของ Hulk ในด้านต่างๆ ได้"
การเลือกคลาสอื่นๆ ก็อาจทำให้คุณประหลาดใจได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น แน่นอนว่าตัวละครตัวเล็กๆ ที่ชอบยิงเปรี้ยงปร้างก็ต้องเป็น Duelist ใช่ไหมล่ะ "ในตอนนี้ Rocket Raccoon เป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุดจากการตีความแบบทั่วๆ ไปของเขา" Zhiyong กล่าว และยังอธิบายถึงแนวคิดที่ทำให้ Half-Worlder ผู้นี้เป็น Strategist ด้วย "กระบวนการออกแบบของเราทำให้เราตระหนักถึงบทบาทของเขาในฐานะสุดยอดวิศวกรของ Guardians of the Galaxy" นอกจากที่เราเก็บเจ็ตแพ็กอันเป็นเอกลักษณ์และอาวุธที่ทรงพลังของเขาไว้แล้ว เรายังเพิ่มอุปกรณ์ที่น่าทึ่งต่างๆ มากมายให้กับเขาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยที่ชอบช่วยเหลือของเขาภายในทีม"
มาร่วมทีมกัน Spidey
คุณรู้ไหมว่ามีอะไรอีกอย่างที่เจ๋งเกี่ยวกับ Rocket ฟีเจอร์เกมเพลย์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของ Rivals ช่วยให้เขาสามารถยืนบนไหล่ของ Groot เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของกลไก Team-Up (ซึ่งเป็นการจับคู่ที่ในกรณีนี้เรียกว่า Planet X Pals) ซึ่งทำให้ตัวละครบางตัวร่วมมือกันได้เพื่อให้ได้ผลประโยชน์เพิ่มเติม
"ระบบ Team-Up นั้นมีรากฐานมาจากความสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมที่เห็นได้ชัดทั่วทั้งจักรวาล Marvel" Zhiyong กล่าว "มันเป็นหลักการออกแบบที่ทั้งทีมของเราและ Marvel ยึดถือ โดยเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับประสบการณ์ Marvel ที่แท้จริง พร้อมทั้งยังขยายความเป็นไปได้ในส่วนเกมเพลย์ไปด้วย การออกแบบ Team-Up ของเราเริ่มต้นด้วยการเจาะลึกการโต้ตอบที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตัวละคร ซึ่งรวมถึงการจับคู่อันเป็นสัญลักษณ์อย่าง Rocket Raccoon ที่ขี่หลัง Groot รวมไปถึงการทำงานร่วมกันตามความสามารถของตัวละคร เช่น พลังงานรังสีแกมมาของ Hulk ที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับ Iron Man และ Doctor Strange หรือซิมไบโอตของ Venom ที่เสริมพลังให้กับ Peni Parker และ Spider-Man"
แต่… จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเป็น Venom และไม่มีใครเลือกเล่นเป็น Peni หรือ Spidey ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเป็น Tony ที่ไม่มี Stephen หรือเป็น Rocket ที่ไม่มี Groot Team-Up จะมีความสำคัญแค่ไหน หากฮีโร่ของคนอื่นในทีมอยู่นอกเหนือการควบคุมของคุณ "ในขั้นตอนการออกแบบเบื้องต้น เราได้คำนึงถึงข้อกังวลนี้" Zhiyong กล่าว "เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราได้สร้างชุดตัวละคร 2 ถึง 3 ตัว ซึ่งทำให้สามารถใช้ Team-Up ในกลุ่มเล็กๆ ได้ง่ายขึ้น"
HULK ถล่ม!!! (เอาจริงๆ ทุกคนก็ถล่มได้)
ในขณะที่ Team-Up ในบางกรณีจะเน้นไปที่ความสามารถมากกว่าความฉูดฉาด (เช่น Hela อาจชุบชีวิต Thor หรือ Loki ได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Ragnarok Rebirth) แต่เกมทีมที่ฉูดฉาดกว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการตัดสินใจของ NetEase ที่ให้ความสำคัญกับกลไกการทำลายล้างของ Rivals "ในฐานะเกม PvP ซูเปอร์ฮีโร่แบบทีม การทำลายล้างมีความสำคัญ" Zhiyong กล่าว "การทำลายล้างและการโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบด่านของเรา"
ทีมงานได้นำสิ่งที่ Zhiyong เรียกว่า "แนวทางแบบหลายชั้น" มาใช้ เมื่อต้องรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้ากับการเล่นเกม โดยทั้งสามชั้นจะผสานรวมกันเพื่อสร้าง "สภาพแวดล้อมการเล่นเกมที่สมบูรณ์และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ" "ชั้นแรกมุ่งเน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์การต่อสู้ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ด้วยการใช้การทำลายล้างแบบไดนามิก และเพิ่มฟีดแบ็กเพิ่มเติมให้กับการต่อสู้ ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไป พื้นที่บางส่วนจะพังทลายและอาคารจะถล่ม ทำให้การต่อสู้ดุเดือดมากขึ้น"
ส่วนชั้นที่สองก็พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำลายล้างไม่ได้แค่ดูเจ๋งเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นกลยุทธ์ได้อีกด้วย "ชั้นที่สองนำเสนอประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นผ่านการทำลายฉากภายในโครงสร้างด่าน ตัวอย่างเช่น การทำลายแพลตฟอร์มสูงสามารถเปลี่ยนตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ได้ ในขณะที่การทำลายกำแพงอาจสร้างเส้นทางใหม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น การทำลายที่กำบังอาจเผยสถานที่ที่ปลอดถัยที่ศัตรูใช้โจมตีก่อนหน้านี้ได้ ทำให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเปลี่ยนไปอย่างมาก”
และสุดท้าย ชั้นที่สามจะนำส่วนหลักของ Rivals เข้ามา ซึ่งก็คือองค์ประกอบของการเล่าเรื่อง "ชั้นที่สามสร้างขึ้นบนพื้นฐานนี้ด้วยการรวมกลไกการทำลายพิเศษที่ปรับแต่งให้เหมาะกับธีมด่านที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ใน Tokyo 2099 โครงสร้างที่พังทลายจะติดอยู่กับใยแมงมุมกลางอากาศ ทำให้เกิดที่กำบังกลางอากาศที่โดดเด่น ซึ่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างสำหรับฮีโร่ที่บินได้หรือฮีโร่ที่มีความสามารถในการปีนป่ายขึ้นที่สูง"
การอ้างอิงที่มีความหมาย
สภาพแวดล้อมแต่ละแห่ง (หรืออาจใช้คำว่า Chronoverse แต่ละแห่ง ซึ่งเป็นศัพท์ในเกม Rivals ) ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงการทำลายล้าง แต่คุณยังต้องชื่นชมความเอาใจใส่ในรายละเอียดของ NetEase ด้วย ซึ่งเห็นได้จากความพิถีพิถันที่เห็นได้ชัดว่าสิ่งต่างๆ นั้นสอดคล้องกันกับเรื่องราวที่บอกเล่า "ในการออกแบบแผนที่ เราเน้นที่แนวทางหลักสองประการ ได้แก่ 'การพลิกผัน' และ 'การเชื่อมโยง'" Jinghua กล่าว "แทนที่จะฉากเดิมๆ จากการ์ตูน เราจินตนาการถึงพื้นหลังของแผนที่แต่ละแห่งใหม่ โดยอิงจากโลกในเชิงแนวคิดและเรื่องราวของซีซัน"
พูดอีกอย่างก็คือ คุณไม่ได้มีแต่ Asgard เท่านั้น แต่คุณยังมี Yggsgard ซึ่งเป็นบ้านของ Thor ในเวอร์ชันที่รวมเข้ากับ World Tree Yggdrasil อย่างสมบูรณ์แล้วในตอนนี้ ส่วน Wakanda น่ะหรือ ดินแดนนี้ "เป็นอาณาจักรอวกาศระดับสูงในไทม์ไลน์ปี 2099 โดยแตกต่างไปจากรากเหง้าบนโลกอย่างสิ้นเชิง” Jinghua กล่าว ทั้ง Yggsgard และ Wakanda 2099 ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องตั้งแต่เปิดตัว เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ให้สัญญาว่าจะเพิ่มเข้ามา เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปในแต่ละซีซัน
"ในขณะที่สร้างแผนที่นั้น แนวทางของเราคือการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทีมเรื่องราว ทีมออกแบบด่าน และทีมศิลป์" Jinghua กล่าวเพิ่มเติม "ทีมเรื่องราวเริ่มต้นกระบวนการออกแบบแผนที่ด้วยการสร้างเรื่องราวของแผนที่และฉากของโลก โดยเน้นที่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ และ Chronovium [อธิบายต่อด้านล่าง] จากนั้น เราจะกำหนดจุดข้อมูลหลัก และทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมด่านและทีมศิลป์เพื่อสร้างกรอบแผนที่เริ่มต้น"
และแล้วก็ถึงส่วนที่สนุก ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกมมีความเป็น Marvel ยิ่งผลงานของ Stan Lee และผองเพื่อนที่สร้างตัวละครมาทำลายล้างกันและกันอีกด้วย "เราเน้นไปที่การอ้างอิงจำนวนมากตามเนื้อเรื่องในแผนที่เพื่อให้เรื่องราวมีชีวิตชีวามากขึ้น"
ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ไหน คุณก็จะเห็นสิ่งที่ Jinghua กล่าวถึง ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อวิเคราะห์ฉากหนึ่งโดยเฉพาะ: แม้ว่าจักรวาล 2099 จะไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับแฟนๆ Marvel กระแสหลักหลังจาก Spider-Man: Across the Spider-Verse และเกม Spider-Man ของ Activision ได้แก่ Shattered Dimensions และ Edge of Time แต่คุณก็คงพูดได้ว่า Tokyo 2099 นั้นเป็นการ "บิดเบือนและเชื่อมโยง" ในเชิงสร้างสรรค์เพิ่มเติมจากทาง NetEase เอง โตเกียวแห่งอนาคตที่น่าจะมีความเจริญรุ่งเรือง นับตั้งแต่ลิขสิทธิ์การ์ตูน Godzilla ของ Marvel หมดอายุลงในปี 1979 ซึ่งเป็นการอ้างอิงของตัวเอง และยังมีการอ้างอิงย่อยๆ อื่นๆ อีกมากมาย
คุณจะหาเองเจอได้แค่ไหน True Believer
- Pixel Corp: เคยปรากฏในหนังสือการ์ตูนมาแล้วถึง 9 ฉบับ (ซึ่ง 8 ฉบับคือ Doom 2099) พวกเขาสร้างหุ่นยนต์หรืออะไรประมาณนั้น
- Green Globe: เราอยากจะบอกคุณว่า Green Globe ทำอะไร... แต่ถ้าจะบอก เราก็ต้องอ่านการ์ตูน Ravage 2099 (ขอโทษนะ Stan!)
- 3A) Horizon Labs และ 3B) Alchemax: เตรียมรบได้เลย ชาวเนิร์ดทั้งหลาย ในจักรวาล Rivals นายจ้างของ Peter Parker ในช่วงยุค "Big Time" ของเขาในการ์ตูน The Amazing Spider-Man ของต้นยุค 2010 ดูเหมือนจะไม่เคยรวมตัวกับ Allan Chemical เพื่อก่อตั้ง Alchemax ซึ่งถือวายร้ายที่ทรงพลังที่สุดใน 2099
- Stark-Fujikawa (มีแสงสลัวๆ): ผลลัพธ์จากการควบรวมกิจการระหว่าง Stark Enterprises และ Fujikawa Corporation บางทีคุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับชายผู้ล่วงลับไปแล้วนามว่า Tony พอเขาไม่อยู่แล้ว องค์กรก็ชั่วร้ายมาก
- D/Monix: คุณจะเชื่อไหมว่าบริษัทไซเบอร์เนติกส์/เสริมความสามารถมนุษย์ที่ชื่อว่า D/Monix (ที่ได้ชื่อมาจาก "Data Manipulation and Organization Networks" ซึ่งฟังดูไม่น่าไว้ใจพอๆ กันเลย) นั้นมาจากการ์ตูน Ghost Rider 2099 โดยตรง ใช่เลย!
- Beyond Corporation: คุณจำเรื่อง The Amazing Spider-Man: Beyond ที่คุณได้ยินว่าเนื้อเรื่องดีในปี 2022 แต่คุณไม่เคยได้อ่านได้ไหม บริษัทมัลติเวิร์สขี้โกงนี้เป็นสาเหตุที่ได้ชื่อนี้มา
- Public Eye: หน่วยงานตำรวจแห่งอนาคตที่ควบคุมโดย Alchemax หรือจะพูดให้เจาะจงมากขึ้น นี่คือหน่วยงานตำรวจแห่งอนาคตที่ดำเนินการโดยคนใน Alchemax ที่เรียกตัวเองว่า Fearmaster คุณต้องรู้แค่นี้แหละ
- Yashida: Clan Yashida (รวมถึง Silver Samurai รูปขวาล่าง) ถือได้ว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของ Wolverine นอกเหนือจาก Sabretooth ในหนังสือการ์ตูน แต่คุณอาจจำพวกเขาได้จากหนัง The Wolverine (2013) ที่นำแสดงโดย Hugh Jackman ซึ่งเป็นที่มาของโลโก้ที่คุณเห็นตรงนี้ ในช่วงไม่ถึงสิบปีก่อนหน้านี้ การเมืองขององค์กรในชีวิตจริงคงจะห้ามการกล่าวถึง Yashida อย่างสิ้นเชิง ส่วนสัญลักษณ์ของ Fox ก่อนที่ Disney จะซื้อกิจการนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย
- Parker Industries: ความล้มเหลวของ Peter ในการเป็น Tony Stark (จากการยุยงของ Doctor Octopus… เรื่องมันยาว) ที่นี่ บริษัทของเขามีความเชื่อมโยงกับ SP//DR ตัวตนอีกด้านของ Peni Parker ซึ่งเป็นตัวละครที่เล่นได้ของ Rivals ที่รู้จักกันดีว่าเป็น Spider ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอนิเมะเรื่อง Into the Spider-Verse ข้อความภาษาญี่ปุ่นที่แปลมาข้างล่างคือ "อาวุธสุดยอดของ Parker Industries" ซึ่งบ่งชี้ว่า Peni เวอร์ชัน Rivals นั้นดัดแปลงมาจากบริษัทของ Peter ในอนาคตที่ยังคงอยู่รอด ในหนังสือการ์ตูน Spider-Verse เธอได้ชุดเกราะจักรกลของเธอมาจาก Oscorp
- Douglas Jazz Night: อ้างอิงถึงนักแซ็กโซโฟนระดับปรมาจารย์ Arthur Douglas และเป็นชื่อมนุษย์ของ Drax the Destroyer อย่างน้อยก็ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูน
Jinghua อธิบายเพิ่มเติม: "การรวมชื่อธุรกิจไว้ในแผนที่ช่วยสร้างภาพที่แท้จริงของโตเกียวในไทม์ไลน์ปี 2099" สภาพแวดล้อมของเราสะท้อนถึงโลกที่โดดเด่นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งสภาพอากาศที่แย่ลงและความขัดแย้งของยอดมนุษย์ได้ลบร่องรอยของยุค Heroic Age ออกไป ในเรื่องราวนี้ บริษัทเทคโนโลยีได้เปลี่ยนโลกด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีแหล่งที่มาไม่ชัดเจน ในขณะนี้ องค์กรต่างๆ อย่าง Alchemax, Stark-Fujikawa, Roxxon Energy Corporation และ Clan Yashida ได้ควบคุมดินแดนที่เคยเป็นพรมแดนของประเทศต่างๆ มากมาย"
มีเรื่องราวมากกว่าที่เห็นซ่อนอยู่เบื้องหลังเส้นขอบฟ้าที่นี่ "ระบบศาลเตี้ยของกลุ่ม Web-Warrior มากมายผ่าน Web of Life and Destiny ได้ขัดขวางการทำงานใต้ดินของบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้" Jinghua กล่าว "ส่งผลให้หน่วยตำรวจเอกชน Public Eye ต้องตอบโต้ และกระตุ้นให้ฮีโร่คนอื่นๆ เข้ามาลงมือเพื่อจัดตั้งกลุ่มใหม่สำหรับ 2099 โดยเฉพาะ ซึ่งจะเปิดเผยในภายหลัง รายละเอียดที่ซับซ้อนเหล่านี้สอดแทรกเข้ากับเรื่องเล่าเบื้องหลังของเหล่าฮีโร่และการเล่าเรื่องของแผนที่ ซึ่งมอบความสมจริงอย่างต่อเนื่องที่สะท้อนให้เห็นในป้ายบริษัทภายในฉาก"
พูดตรงๆ เลยว่าพวกคุณส่วนใหญ่ที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่คงไม่ได้หยุดคิดเลยว่า Jinghua และทีมของเขาทุ่มเทความคิดให้กับความซับซ้อนดังกล่าวมากแค่ไหน คุณแค่จะระเบิดมันทิ้ง แต่ยิ่งคุณอยู่ในแผนที่มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งซึมซับสิ่งต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น และจะยิ่งรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว
Days of Future Present ของ Doom
แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมทุกคนถึงต้องสู้กันตั้งแต่แรก "ความท้าทายนี้เป็นจุดสิ่งที่ทีมเนื้อเรื่องของเราให้ความสำคัญเป็นหลัก" Jinghua กล่าว "เราได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับการผสานไดนามิกของ PvP เข้ากับเรื่องราวหลักของเราอย่างไร้รอยต่อ โดยเปลี่ยนให้กลายเป็นการปะทะกันระหว่างจักรวาลคู่ขนานและความขัดแย้งภายในระหว่างฮีโร่"
Jinghua กล่าวว่า Doctor Doom เป็น "จุดเริ่มต้นที่มีความละเอียดอ่อนของการเล่าเรื่องในเกม" เห็นได้ชัดว่าทีมงานของเขาสนใจการสำรวจตัวละครที่หลายๆ คนมองว่าเป็นวายร้ายตัวฉกาจของ Marvel "ถึงแม้จะไม่ใช่ฮีโร่แบบคลาสสิก แต่ Doom ชั่วร้ายจริงๆ หรือเปล่า" Jinghua กล่าว "แฟนๆ ของเขาคงไม่เห็นด้วย ความซับซ้อนในธรรมชาติของมนุษย์ทำให้ฮีโร่ต้องเลือกทางเลือกที่แตกต่างออกไป บทบาทของเราคือการสร้างสถานการณ์เหล่านี้ จัดเตรียมแพลตฟอร์ม และดูว่าสถานการณ์เหล่านั้นแสดงจุดยืนที่ขัดแย้งกันอย่างเป็นธรรมชาติ"
ไม่ว่าจะชั่วร้ายอย่างแท้จริงหรือไม่ก็ตาม คงไม่ใช่ไอเดียที่ดีนักที่จะให้ Doctor Doom ในปัจจุบันและ Doom ในปี 2099 อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน... อย่างไรก็ตาม เกมก็ทำมาได้เป็นอย่างดี ต่อมาก็คือ "ความปั่นป่วนทางกาลเวลา" ที่รู้จักในชื่อ Timestream Entanglement ก็ได้สร้างความหายนะให้กับ Chronoverse ทั้งสี่ในช่วงเปิดตัวของ Rivals
"ความพัวพันนี้ทำให้อดีตและอนาคตที่อาจเกิดขึ้นเชื่อมโยงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นำไปสู่การพังทลายและการควบรวมกันของเส้นเวลา ส่งผลให้เกิดการปะทุของกาลเวลาและทิ้งร่องรอยทางกายภาพไว้ทั่วจักรวาลต่างๆ" Jinghua อธิบาย "ร่องรอยทางกายภาพเหล่านี้แสดงออกมาในรูป Chronovium ซึ่งตกผลึกพลังงานแห่งกาลเวลา ซึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นรูปที่แตกต่างกันในแต่ละสถานที่"
จึงเป็นสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยเรื่องราวดังที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ "จักรวาลที่โกลาหลทำให้เกิดวิกฤตและภัยพิบัติขึ้นทุกแห่ง" Jinghua กล่าวต่อ "เหล่าฮีโร่รวมตัวกันเพื่อตอบโต้ โดยหวังว่าจะกำจัดรอยแยกแห่งกาลอวกาศและคลี่คลาย Timestream Entanglement"
สำหรับแฟนตัวยงของการ์ตูน ฉากหลังนี้อาจทำให้คุณนึกถึง Secret Wars ปี 2015 เมื่อความเป็นจริงต้องต่อสู้เพื่อหาทางรอด ในขณะที่ Incursions ที่จะทำลายจักรวาลคุกคามการดำรงอยู่ สำหรับคนอื่นๆ... มันเป็นฉากหลังที่ยอดเยี่ยมในการยิงตัวละครดังๆ แห่งวัฒนธรรมป็อป
ดาวเด่นแห่งการต่อสู้ Galacta
อย่างไรก็ตาม ตัวละครหลักทุกตัวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวโดยรวมของ Rivals นั้นไม่ได้เข้าฉากมาในฐานะ "ตัวละครดังแห่งวัฒนธรรมป็อป" คุณต้องดู (หรือฟัง) ผู้ประกาศสำหรับการแข่งขันแต่ละแมตช์ เพื่อจะทำความเข้าใจว่า NetEase พยายามอย่างหนักแค่ไหนในการค้นหาตัวละครที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบทบาท
"เป้าหมายหลักของเราคือการทำให้ระบบผู้ประกาศมีบุคลิกที่มีชีวิตชีวา โดยหวังที่จะถ่ายทอดคำบรรยายการต่อสู้ที่น่าดึงดูดและหลากหลาย ไม่ใช่แบบที่ไม่มีสีสันและเหมือนหุ่นยนต์" Jinghua กล่าว "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เราจึงมองหาตัวละครจากหนังสือการ์ตูนที่สามารถสื่อสารกับผู้เล่นได้โดยตรง มีเชื้อสายจักรวาล และมีเสน่ห์และชีวิตชีวา Galacta เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด"
เราไม่ได้พิมพ์ผิดนะ แถม "มีเสน่ห์และชีวิตชีวา" ก็คงนิยามนิสัยชอบกลืนกินโลกต่างๆ ของ Galactus วายร้ายตัวโปรดของแฟนๆ ไม่ได้ แต่ถ้าคุณเจาะลึกเข้าไปในความจริงอย่างหนึ่งอย่างของ Marvel (สร้างขึ้นเพื่อเป็นเรื่องตลกในปี 2009 สำหรับ Marvel Assistant-Sized Spectacular #2) คุณจะพบกับเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงเวลาที่มีปรสิตถือกำเนิดจาก Devourer of Worlds และให้กำเนิด Galan เวอร์ชันผู้หญิงที่มีขนาดเท่ามนุษย์ขึ้นมา (ใช่แล้ว Galactus มีชื่อจริง) เธอเรียกตัวเองว่า Galacta และแม้ว่าเธอจะชอบกลืนกินโลกเหมือนกับพ่อของเธอ แต่เธอก็รู้สึกแย่มากที่จะทำแบบนั้น
เรื่องราวความยาว 9 หน้าที่มีอายุ 15 ปีบวกกับการ์ตูนดิจิทัลอายุ 14 ปีไม่กี่ฉบับคงไม่ทำให้ตัวละครอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะเป็นหน้าเป็นตาของเกม AAA ฟอร์มยักษ์ จริงๆ แล้ว เป็นไปได้เลยว่าเธอมีบทพูดในบัญชี Twitter/X ในชีวิตจริงที่มีอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ มากกว่าบทพูดในหนังสือการ์ตูนซะอีก แต่ตามที่ Zhiyong กล่าวไว้: "เรา [สามารถ] เลือกจากเกมลิขสิทธิ์ของ Marvel ทั้งหมด ที่ครอบคลุมประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 85 ปี" พวกเขาจึงใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้มีตัวละครรองได้รับบทบาทสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ที่ Capcom เลือก Shuma-Gorath ให้เป็นหนึ่งใน 13 ตัวละครนักสู้ที่เล่นได้ใน Marvel Super Heroes
"การปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนเพียงไม่กี่ครั้งของเธอทำให้เราได้รับอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้น ทำให้เราสามารถสร้างผู้ประกาศที่มีบุคลิกเฉพาะตัวและน่าดึงดูดได้อย่างแท้จริง" Jinghua กล่าว "การสร้างตัวละครที่ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวนั้นต้องปรึกษากับทีมงาน Marvel หลายครั้งเพื่อสร้างโปรไฟล์ตัวละครพื้นฐานของเธอให้ชัดเจนขึ้น" เขาคิดว่า Cassandra Lee Morris (Sarah Hotep จาก Fortnite) คือ "คนเหมาะสมที่สุด" ที่จะพากย์เสียงตัวละครนี้
"Galacta มีบทบาทสำคัญในจักรวาลเกมของเรา" Jinghua กล่าวเสริม "เธอไม่ใช่แค่ผู้สังเกตการณ์เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจและสดใหม่ พร้อมทั้งแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะค่อยๆ เปิดเผยออกมาในซีซันต่อๆ ไป" แม้เราจะบอกได้ว่าบทบาทของเธอเชื่อมโยงกับพ่อของเธออย่างซับซ้อน แต่ขอบเขตบทบาทของเธอที่มีต่อการเล่าเรื่องนั้นจะเผยออกมาเมื่อเวลาผ่านไป
เรื่องราวต่อเนื่องที่มีตำนานมากมาย
ดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดของ Galacta อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการบอกเล่า ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้ดื่มด่ำขณะที่คุณรอ นอกเหนือจากการเล่าเรื่องด้วยภาพทั้งภายในและภายนอกเกม Rivals ยังให้ผู้เล่นปลดล็อกเรื่องราวการผจญภัยอื่นๆ ในจักรวาลนี้ผ่านทางบทความดิจิทัลมากมาย Jinghua อธิบายเรื่องราวเหล่านี้ (ซึ่งมักจะมีการจับคู่ที่ไม่คาดคิดแต่ก็น่าสนใจ เช่น Magneto กับ Namor หรือ Magik กับ Venom) ว่าเป็น "เรื่องที่ต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่องของซีซัน" ฉากแอนิเมชันสำหรับแต่ละแผนที่ การโต้ตอบของฮีโร่ และระบบแกลเลอรียังมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอเรื่องราวของแต่ละซีซันอีกด้วย
คำว่า "ซีซัน" โผล่มาบ่อยมากใช่ไหมล่ะ คุณบอกได้เลยว่าทีมเนื้อเรื่องมีแผนระยะยาวสำหรับตัวละครใหม่ที่พวกเขาจะเพิ่มเข้าไป หรือแม้แต่ Team-Up ใหม่และการอัปเดต Team-Up "ความมุ่งมั่นของเราในการอัปเดตซีซันนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะนำเสนอเนื้อหาซีซันที่มีธีมอย่างสมบูรณ์" Jinghua กล่าว โดยเสนอแนะว่าเราน่าจะมีเนื้อหาใหม่ๆ ให้ติดตามประมาณทุกๆ สามเดือน โดยเริ่มตั้งแต่ Season 2 "แต่ละซีซันจะเน้นไปที่ธีมเรื่องราวเฉพาะเจาะจง โดยขับเคลื่อนการแนะนำตัวละครใหม่ แผนที่ใหม่ ชุดเสื้อผ้าใหม่ หรือแม้แต่ไดนามิกของเกมเพลย์สำหรับซีซันนั้น"
น่ายินดีที่ได้ยินแบบนั้น เพราะว่าแม้ว่า Rivals จะเตรียมเปิดตัวพร้อมด้วยฮีโร่หลายคน แต่ก็มีแนวโน้มว่าชุดตัวละครอาจจะยังขาดฮีโร่คนโปรดของคุณสักคนหรือสองคน เมื่อถามถึงการเปิดตัวตัวละครในอนาคต NetEase ก็ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่หากตัวละครที่คุณชอบเป็นคนที่คุณรู้ว่าคนอื่นๆ ก็ชอบเหมือนกัน ก็สมเหตุสมผลที่ตัวละครเหล่านี้จะอยู่ในแผนการเปิดตัวด้วย พร้อมมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจควบคู่มาด้วย สำหรับการเปิดตัว MCU ในอนาคต เราได้นำเสนอการคาดเดามากมายให้กับคุณ!
จาก "ใคร" ไปจนถึง "โอ้โฮ!"
แต่กระนั้น ทำไมถึงมีการตัดสินใจเลือกตัวละครอย่าง Jeff the Shark กับ Luna Snow เข้ามาก่อนตัวละครที่แฟนๆ ส่วนใหญ่คุ้นเคยล่ะ "การตัดสินใจของเราขึ้นอยู่กับความจำเป็นในด้านเกมเพลย์และความต้องการของแฟนๆ Marvel เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับประสบการณ์ที่สมดุลและน่าติดตาม" Zhiyong กล่าว
"เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงนำเสนอตัวละครจาก Avengers, X-Men และ Guardians of the Galaxy ที่เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวละครที่ไม่ค่อยได้เห็นในผลงานดัดแปลงด้วย" Jinghua กล่าวเสริม "ตัวละครที่ทำให้แฟนๆ การ์ตูนตื่นเต้นได้อย่างแท้จริง อย่าง Galacta, Luna Snow และ Jeff เราตั้งเป้าว่า Marvel Rivals จะเป็นประตูสำหรับเกมเมอร์ในการสำรวจและเปิดรับ Marvel Universe"
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่ Marvel Universe ทั่วๆ ไป แต่เป็นการตีความของ NetEase ไม่ต่างกับที่ Marvel Cinematic Universe สร้างมาจากหนังสือการ์ตูน และมีความแตกต่างในจุดที่ควรมี อิสระดังกล่าวทำให้ทีมสามารถพัฒนาความสามารถของตัวละครบางตัวเพื่อให้เกมเพลย์น่าดึงดูดยิ่งขึ้นได้
"เราได้วิเคราะห์แก่นแท้ของพวกเขา และวางการออกแบบทักษะของเราขึ้นมาโดยตามองค์ประกอบเหล่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้แค่รวบรวมความสามารถที่มีอยู่แล้วและยึดติดกับการนำเสนอแบบเดิม แต่เราจะสร้างประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marvel Rivals เท่านั้น" Zhiyong กล่าว
คงไม่มีใครในเกมที่แสดงถึงแนวคิดนั้นได้ดีไปกว่า Winter Soldier ในตอนเปิดตัว "เราถือว่าแขนกลอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเป็นหนึ่งในแก่นแท้ของเขา" Zhiyong อธิบาย "เราได้สำรวจศักยภาพของมัน พิจารณาว่าแขนกลไฮเทคสามารถทำอะไรได้บ้าง มีคุณสมบัติที่โดดเด่นใหม่ๆ อะไรบ้าง ฯลฯ แนวทางนี้คงไว้ซึ่งความสมจริงของตัวละคร พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สดใหม่และโดดเด่น"
ในกรณีนี้ คำว่า "สดใหม่และโดดเด่น" หมายถึงการเพิ่มพลังให้กับแขนของ Bucky ในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น การลงหมัด Kraken Impact ลงพื้นที่จะแยกแขนกลของเขาออกเป็นชุดเส้นเอ็น ก่อนจะโจมตีเป็นวงกว้างและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีวิธีที่เขาโยนแขนอันเงางามของเขาออกไปเพื่อคว้าศัตรู เหมือนกับตอนที่เขาต่อสู้กับ Sub-Zero ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขาใน Outworld อีกด้วย "ทีมงานของ Marvel ชื่นชอบแนวทางนี้ ซึ่งทำให้กระบวนการควบคุมการออกแบบโดยรวมราบรื่นมาก" Zhiyong กล่าว
การชำระเงินและธรรมเนียมปฏิบัติ
Winter Soldier เป็นเพียงหนึ่งในตัวละครมากมายถึง 33 ตัวที่สามารถเล่นได้เมื่อเปิดตัว ทั้งหมดเล่นได้ฟรี ลองเปรียบเทียบกับ Overwatch เกมยักษ์ใหญ่แนวเดียวกันที่เปิดตัวพร้อมกับฮีโร่ 21 ตัว และเพิ่งจะมีตัวละครถึง 33 ตัวในอัปเดต Sojourn ที่เปิดตัวเกือบ 6 ปีให้หลัง ซึ่งเป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็น Overwatch 2 ซึ่งปัจจุบันมีฮีโร่ทั้งหมด 41 ตัว
หากคุณอยากเติมเงิน Aden หัวหน้าฝ่ายออกแบบคอนโซลของ NetEase อธิบายว่ากำไรของเกมจะมาจาก "วิธีการที่ตรงไปตรงมา เช่น Battle Pass และการขายโดยตรงในร้านค้าในเกม" รวมไปถึง "ชุดเสื้อผ้า อีโมต สเปรย์ ฯลฯ"
ใช่แล้ว ชุดเสื้อผ้า ซึ่งดูเหมือนจะสำคัญสำหรับเกมเมอร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่บางคนพอๆ กับเกมเพลย์และเนื้อเรื่อง "เมื่อต้องเลือกชุดเสื้อผ้า กระบวนการของเรามีความหลากหลายและมีหลายด้าน" Jinghua กล่าว "เราวางแผนไว้หลายหมวดหมู่"
นอกจากประเภทที่คาดหวังไว้อย่าง MCU และ Comic Classics (เช่น ตัวอย่าง Anti-Venom และ Venom: Space Knight ด้านบน) Jinghua สัญญาว่าจะมีชุดเสื้อผ้าตามซีซันที่ได้มาจากเนื้อเรื่อง เครื่องแต่งกายช่วงเทศกาลที่ออกแบบมาให้เข้ากับกิจกรรมเทศกาลภายในเกม และธีมยอดนิยม ("ธีมจากสื่อต่างๆ ควบคู่กับฮีโร่ของเราเพื่อสร้างชุดเสื้อผ้า เช่น ซีรีส์ 1872 ซึ่งโอบรับความเป็นคาวบอยแบบย้อนยุคและสตีมพังก์")
เรากล่าวไปครบหรือยัง
NetEase เข้าสู่ช่วงเปิดตัวอย่างมั่นใจ โดยได้รับการสนับสนุนจาก "การทดสอบเล่นที่เกินความคาดหวังของเราด้วยซ้ำ" ตามที่ Zhiyong กล่าว "ข้อมูลการทดสอบโดยรวมดูมีแนวโน้มดีมาก ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในอนาคตที่ดีของเกม"
Jinghua ก็มองในแง่ดีเช่นเดียวกับ Zhiyong เรารู้สึกทึ่งอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเขาสะท้อนถึงสถานะของเกม "ในวันนี้ Marvel Rivals ถือเป็นส่วนสำคัญของเกมของ Marvel" เขากล่าว "เรื่องเล่าใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นสำหรับซูเปอร์ฮีโร่ที่เรารักได้เข้าถึงผู้ที่ชื่นชอบ Marvel มากมาย ซึ่งบางคนครั้งหนึ่งก็เคยเหมือนกับเรา ความสำเร็จนี้ทำให้เราภาคภูมิใจอย่างยิ่ง"