Summer Game Fest จะกลายมาเป็นงาน E3 ใหม่ได้อย่างไร

10.5.2565
โดย Brian Crecente

มันเริ่มต้นด้วยการขยิบตา

ไอคอนยิ้มสีเหลืองขยิบตาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปราศจากข้อความใดๆ ได้ปรากฏขึ้นบนฟีด Twitter ของ Geoff Keighley เมื่อวันที่ 31 มีนาคม เวลา 14.31 น. ในครั้งนั้นได้สร้างความสะเทือนให้กับแวดวงสื่อมวลชนอิสระ

แม้จะไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่นี่ถือเป็นปฏิกิริยาที่ชัดเจนต่อข่าว ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหกนาทีก่อนหน้านั้นว่า E3 2022 จำเป็นต้องถูกยกเลิก

Keighley พิธีกรและนักสร้างสรรค์ผลงาน Game Awards ภาคฤดูหนาวของปี และ Summer Game Fest ที่เป็นที่ยกย่อง ได้ยืนยันถึงการกลับมาอีกครั้งของการเฉลิมฉลองวิดีโอเกมในภาคฤดูร้อนของเขาด้วยการแสดงท่าทางพยักหน้าและขยิบตา

ประมาณ 20 นาทีต่อมา การยืนยันอย่างเป็นทางการได้กระจายออกไปทั่วสตรีมของ Twitter: Summer Game Fest ถึงการกลับมาอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะถือเป็นการเฉลิมฉลองวิดีโอเกมทั่วแวดวงอุตสาหกรรมเกม

ในขณะที่การยกเลิกงาน E3 ประจำปี 2022 นั้นได้สร้างความประหลาดใจให้กับบางคน แต่ไม่ใช่สำหรับ Keighley เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับข่าวที่จะเกิดขึ้นตามมา ด้วยการพัฒนาอีโมจิที่แปลกตา ซึ่งในท้ายที่สุดก็ได้รับยอดกดไลก์ถึง 15,000 ครั้งและอีกเกือบ 2,000 รีทวีต (อีกทั้งยังสร้างการสนทนาที่มีการตอบกลับถึง 1,000 ครั้ง)

"ดูสิ เราพูดคุยกับคนคอเดียวกันทั้งหมด และตระหนักดีถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับบริษัทเกมและผู้เผยแพร่เกมทั้งหมด" Keighley กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ "ผมได้พูดคุยถึงสิ่งที่จะเป็นไปได้ในงาน E3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้กับ (โชว์รันเนอร์ของงาน E3) ESA มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับการกลับมาหลังการแพร่ระบาดของโควิดและการจัดโชว์แบบจับต้องได้จริง"

"พวกเขาจัดงาน E3 แบบดิจิทัลในปีที่แล้ว และผมเดาว่าพวกเขาก็สามารถทำเช่นนั้นได้อีกครั้งแน่นอน แต่ก็นั่นละ ผมคิดว่าเราได้สร้าง Summer Game Fest ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมา และก็ได้ผลตอบรับที่ดีทีเดียวจากผู้คนจำนวนมากในแวดวงอุตสาหกรรมนี้ ผมก็เลยไม่แปลกใจอะไร เพราะไม่ได้รู้สึกว่ามีแรงผลักดันมากมายอยู่เบื้องหลังสิ่งที่พวกเขากำลังสร้างอยู่ บางทีการไม่ทำสิ่งใดเลยนั่นน่าจะดีกว่าการทำบางสิ่งที่ไม่เหมาะสม"Summer Game Fest Tiny Tina

จุดเริ่มต้นของงาน Summer Game Fest

นี่จะเป็นครั้งที่สามของการจัดงาน Summer Game Fest แต่การเดินทางของ Keighley สู่การสร้างงานวิดีโอเกมภาคฤดูร้อนทั่วทั้งอุตสาหกรรมนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน

Keighley มีประวัติอันยาวนานกับงาน E3 ทั้งในฐานะผู้เข้าร่วมประชุมที่มีความกระตือรือร้น ทั้งยังเป็นผู้จัดรายการวาไรตี้แบบสตรีมสด และรายการโทรทัศน์ที่หลากหลายของอีเวนต์ เริ่มต้นในปี 2017 การสร้างคอนเนคชันอย่างเป็นทางการได้เริ่มต้นอย่างเป็นรูปเป็นร่างและเขาเริ่มเป็นเจ้าภาพจัดงาน E3 Coliseum ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์และการพูดคุยแบบถ่ายทอดสด ซึ่งจัดขึ้นในช่วงจัดงาน E3 และจัดขึ้นต่อหน้าผู้ชมสด

แต่ในปี 2020 Keighley ประกาศว่าเขาจำเป็นต้อง "ตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะต้องปฏิเสธการจัดงาน E3 Coliseum"

ภายหลังจากการประกาศยกเลิกงาน E3 แก่สาธารณชน Keighley กล่าวว่าตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจซะทีเดียวว่าจะทำอะไรหลังจากนี้ เขาเคยคิดว่าจะหยุดอยู่เฉยๆ สักพัก และเดินทางไปยุโรปในช่วงฤดูร้อน เขาบอกว่ามันเป็นความรู้สึกแปลกๆ หลังจากที่มีส่วนร่วมใน E3 มาเป็นเวลายาวนานถึง 25 ปี

"ผมโต้เถียงกับตัวเอง ประมาณว่า ถ้าตอนที่ผมไปงาน E3 มันจะดูแปลกไหมถ้าผมอยู่ที่นั่น หรือผมควรเลิกคิดถึงมันได้แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดใจมากๆ หลังจากที่ได้บอกเลิกงานไป" เขากล่าว "ผมรู้สึกสับสนในตอนนั้น แล้วก็ยังมาเจอเหตุการณ์โรคระบาดอีก แล้วไหนจะยังมีเรื่องงาน E3 มาถูกยกเลิกไปอีก"

ไม่นานนักก่อนที่บริษัทเกมต่างๆ จะเริ่มติดต่อ Keighley โดยบริษัทเหล่านั้นได้ขอให้เขาหาทางอุดช่องว่างที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั้น

"มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวอย่างมากสำหรับการเกิดโรคระบาดใหญ่ เราไม่มีวัคซีน แต่ทั้ง Xbox ใหม่และ PlayStation ใหม่ก็เปิดตัวในปีนั้นซะด้วย มันก็เลยเป็นปีที่ยิ่งใหญ่มากๆ สำหรับวงการเกม" เขากล่าว 

ดูเหมือนว่า Keighley จะเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเรื่องงาน E3 ในนาทีสุดท้าย เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของเขาในอุตสาหกรรมเกม เรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับ E3 และความสำเร็จในการจัดงาน Game Awards ทุกฤดูหนาว

Keighley กล่าวว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการถือกำเนิดของงาน Summer Game Fest

Summer Game Fest Geoff Keighley Japanese Breakfast
 

Summer Game Fest 2020 และอีกมากมาย

ในปีแรกนั้น การจัดงานในนาทีสุดท้ายที่แค่ต้องการให้ผ่านๆ ไป กลับกลายเป็นการจบลงด้วยการยืดเวลาออกไปอีกสี่เดือน โดยงานเริ่มจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมและไปจบลงในเดือนสิงหาคม เต็มไปด้วยสตรีมสดและประกาศต่างๆ รวมถึงการเปิดเผยทุกอย่างตั้งแต่ Unreal Engine 5 ไปจนถึงกิจกรรมสำคัญที่จัดโดย PlayStation และ Microsoft และในขณะที่มันประสบความสำเร็จ แต่เบื้องหลังของมันนั้นก็ความอัศจรรย์ของนวัตกรรม และการทำงานหนัก

Keighley ต้องเรียนรู้วิธีการสตรีมวิดีโอสดคุณภาพสูงจากบ้านของเขาให้ผู้ชมทั่วโลกอย่างรวดเร็ว นี่แตกต่างจากงานอีเวนต์ที่เขามักจะจัดขึ้น ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์ กล้องมืออาชีพ และทีมงาน 50 คนหรือมากกว่านั้น

"นี่ราวกับว่าเรารวมทุกอย่างเข้าด้วยกันด้วยเทปกาว" เขาพูด "ภาพแรกของคอนโทรลเลอร์ PlayStation 5 DualSense, ถูกแสดงจากห้องนอนสำรองในบ้านของผม ในปีนั้น มันเหมือนกับการสร้างเครื่องบิน ในขณะที่เราบินไปด้วย แต่เราได้เรียนรู้อะไรมามากมาย"

คำติชมส่วนมากเกี่ยวกับปีแรกนั้นเกี่ยวกับความหละหลวมของการจัดการ และระยะเวลาที่จัด 

"เรื่องยากเกี่ยวกับการเปิดตัวสิ่งใหม่ๆ ในช่วงการแพร่ระบาดคือ คุณไม่สามารถทำมันได้ในสภาพการทดสอบที่สมบูรณ์ที่สุด" เขากล่าว "บางครั้งนั่นคือทั้งหมดที่ทุกคนจำได้: มันสี่เดือนแล้ว และมันถูกแพร่ออกไป บริษัทไม่รู้ว่าจะสร้างวิดีโอดิจิทัลหรืออีเวนต์อย่างไร ทุกคนอยู่ที่บ้าน เรามี Xbox ที่ทำอีเวนต์ในเดือนกรกฎาคม และ PlayStation ในเดือนมิถุนายน และทุกอย่างก็กระจายออกไป มันเลยเหมือนกับการฝึกฝนเรียนรู้ครั้งใหญ่ตลอดฤดูร้อน"

สำหรับ Summer Game Fest ของปีที่แล้ว ทีมงานได้เพิ่มโชว์ไลฟ์ และสตูดิโอที่จะเป็นผู้จัด งานถูกตัดเหลือแค่เดือนมิถุนายน 

"หลายๆ อย่างเลยเหมือนแน่นขึ้นและกระทัดรัด" เขากล่าว

ปีที่สอง งานได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง เหมือนกับเป็นงาน Game Awards อีกอันเพียง แต่ไม่มีรางวัล ทั้งสองงานห่างกันเกือบหกเดือน ซึ่งให้ความรู้สึกต่อเนื่องกันที่ดี

"มักมีการพูดคุยกันว่า Game Awards ควรมีส่วนของการมอบรางวัลมากขนาดไหน ควรมีการแสดงเท่าไร คุณจะสมดุลมันอย่างไร" Keighley กล่าว "Summer Game Fest เป็นเพียงการฉลองข่าวเกม และการประกาศเท่านั้นหรือ คุณรู้ว่าคุณจะได้รับอะไร"

Summer Game Fest
 

Summer Game Fest 2022

Summer Game Fest ของปีนี้จะมีขนาดที่กระทัดรัดมากขึ้น Keighley กล่าว งานจะเริ่มวันที่ 9 มิถุนายน เวลา 11.00 น. ตามเวลา PT และจัดไปจนถึงวันที่ 12 มิถุนายน

และยังมีการสตรีมจากนักพัฒนา และผู้จัดจำหน่ายชั้นนำต่างๆ

"ผมคิดว่าทุกอย่างจะอยู่ภายในสัปดาห์ เนื่องจากวงการเกมจะนำเสนอตัวเองสู่โลกกว้างในเดือนมิถุนายน โดยที่ทุกคนต่างทำกิจกรรม" Keighley กล่าว "ผมรู้ว่ามีทุกคนมักจะชอบทุกอย่างที่อัดแน่นในสองวันหรือสามวันหรืออะไรทำนองนั้น แต่นั่นเป็นการยากที่จะทำ เพราะว่าบริษัทต้องการเป็นเจ้าของวันของตัวเอง ดังนั้น ผมไม่รู้ว่าหากเราจะกลับไปใช้โมเดลเก่าที่ทุกอย่างถูกจัดการให้จบภายในไม่กี่วันหรือไม่"

Keighley กล่าวว่าปีนี้จะเห็นบริษัทที่จะจัดอีเวนต์เดี่ยวของตัวเองน้อยลง และสตูดิโอและผู้จัดจำหน่ายเหล่านั้นจะเข้าร่วมกับอีเวนต์ชั้นนำ เหมือนวันเก่าๆ ของ E3

และ Summer Game Fest จะจัดงานแถลงหลังจบงานเพื่อสรุปข่าวใหญ่ของแต่ละสตรีม

Keighley กล่าวเสริมว่าการเปลี่ยนแปลงจังหวะ และจำนวนการประกาศไม่น่าเกิดจากการที่งานนี้จัดแบบดิจิทัล แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม

"บริษัทในทุกวันนี้ไม่ได้ทำงานแบบนั้นแล้ว" เขากล่าว "คือบริษัทมักจะเน้นไปที่เกมที่ให้บริการแบบสดมากกว่า ผมดูที่วงการเกมในตอนนี้ และสำหรับผมแล้ว สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือผลงานจากสตูดิโออิสระต่างๆ หรือบริษัทที่ได้รับเงินทุนสนับสนุน เมื่อเทียบกับผลงานของผู้จัดจำหน่ายใหญ่ๆ แบบดั้งเดิม"

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกอย่างหนึ่งที่จะมาเยือน Summer Game Fest ในปีนี้คือการเพิ่มกิจกรรมสดมากขึ้นในแคนาดา สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร

"เพื่อให้ผู้ชมสามารถรวมตัวกันและดูรายการกับเพื่อนๆ และเฉลิมฉลองกันได้" เขากล่าว "ตอนนี้เรามีคนหลายหมื่นคนที่จะมาร่วมงาน Summer Game Fest แต่คุณไม่จำเป็นต้องบินครึ่งโลก หรือค่อนประเทศเพื่อมาพบเรา เราจะนำงานกิจกรรมไปหาคุณเอง"

นอกจากนี้ Keighley ยังทราบถึงหน้าที่เพิ่มเติมของเขาที่งาน E3 ในปีนี้ที่มากขึ้นด้วย เขายกตัวอย่างว่า ทีมเล็งเห็นความสำคัญที่งานนี้จะต้องไม่เน้นไปที่ผู้พัฒนาจากตะวันตกเท่านั้น

"มีนักพัฒนาอิสระดีๆ มากมายรอบโลก" เขากล่าว "ปีนี้น่าสนใจมากที่ได้พูดคุยกับนักพัฒนามากมาย มีทีมงานหลายๆ ทีมในยูเครนที่เราได้ข่าวมาว่ากำลังพัฒนาเกมอยู่ พวกเขาทำวิดีโอตัวอย่างให้เสร็จไม่ได้ เพราะสตูดิโอต้องย้ายไปประเทศอื่น เนื่องมาจากสงคราม ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก นี่เป็นรูปแบบหนึ่งที่เหตุการณ์ในโลกส่งผลต่อการพัฒนาเกม เราได้คิดถึงเรื่องนี้ และผมคิดว่าคุณจะเห็นตัวแทนผู้พัฒนาในลักษณะนี้ที่งานของเราในแบบที่น่าสนใจ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์การพัฒนาเกมทั่วโลก และผู้คนที่พัฒนาเกมเหล่านี้ 

เราระดมความคิดกันเพื่อพยายามนำเสนอมุมมองที่เป็นสากลว่า ใครเป็นผู้พัฒนาเกมบ้าง"

Summer Game Fest Geoff Keighley Set
 

อนาคตแห่งงานโชว์วิดีโอเกม

ขณะที่เราเตรียมงานวิดีโอเกมที่จะเป็นอีกปีที่มีผู้คนเข้าร่วมแบบตัวต่อตัวน้อยลง เราถาม Keighley ว่าเขาคิดว่างานในอนาคตจะเป็นแบบดิจิทัลอย่างเดียวหรือว่างานแบบตัวต่อตัวจะกลับมาอีกครั้ง

"ผมพูดเสมอว่าผมคิดว่างานของเราจะเน้นไปที่ดิจิทัลเป็นอันดับแรกเสมอ แต่เราจะเพิ่มองค์ประกอบแบบตัวต่อตัวเข้าไปด้วย" เขากล่าว "แม้แต่ในปีนี้ เราก็ได้ประสานงานให้สื่อ และอินฟลูเอนเซอร์รอบๆ ลอสแอนเจลิสมาเล่นเกมบางเกมกับเราจริงๆ งานก็จะเหมือนกับงานส่วนตัว ไม่ใช่งานสาธารณะขนาดใหญ่ แต่เราก็เริ่มผลิตผลงานทางกายภาพด้วย เช่นงาน IMAX สำหรับงานโชว์ในปีนี้ ผมเลยคิดว่าเราจะเริ่มทำงานแบบนั้น แต่คงไม่ได้เป็นงานแบบเดิมๆ ที่ต้องเช่าหอประชุมให้คน 20,000 คนมารอคิวเล่นวิดีโอเกมกัน งานแบบนั้นเป็นการจัดงานแบบเก่าสำหรับผม ผมคิดว่าเราต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนงานที่เราทำให้เป็นแบบกายภาพ และนำพาชุมชนเข้ามารวมตัวกันในแบบที่น่าสนใจอย่างแท้จริง"