The Thing, Aliens และ Predator ช่วยสร้าง Killing Floor 3 ได้อย่างไร
พวกมันไม่ใช่ซอมบี้ แต่เป็น Zed ต่างหาก
ฝูงสัตว์ประหลาดที่ทั้งเทอะทะ วิ่งใส่ และคืบคลานเข้ามาเป็นระลอกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดที่คุณจะได้เผชิญหน้าใน Killing Floor 3 ไม่ได้เป็นผลพวงจากซากศพที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่พวกมันคือการทดลองอาวุธชีวภาพขององค์กร
ถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับซีรีส์ Killing Floor ความแตกต่างของซอมบี้กับตัวทดลองอาจจะไม่ชัดเจนนัก
แต่ในการสัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Bryan Wynia ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Tripwire Interactive รีบแก้คำที่เราใช้ทันทีที่กล่าวถึงสัตว์ประหลาดน่ากลัวในเกมของเขาว่าคล้ายคลึงกับผีดิบ
"จุดนี้ผมจะเนิร์ดสุดๆ เลยนะ" Wynia กล่าว "ถ้าดูไม่ออก ผมน่ะเป็นแฟนตัวยงของหนังสยองขวัญเลย ผมมีห้องที่เต็มไปด้วยชุดโมเดลสัตว์ประหลาดกับหัวกะโหลก ผมว่าสิ่งหนึ่งที่ทีมที่ Tripwire ลงมือทำคือการแยกพวกมันออกจากซอมบี้
"ผมรู้ว่าลูกค้าโดยทั่วไปเรียก [Killing Floor] เป็นเกมยิงฝูงซอมบี้ที่เข้ามาเป็นระลอกๆ แต่ผมว่ามันมีรายละเอียดกว่านั้น และพวกเรามองว่าศัตรูเหล่านี้คือ Zed"
แล้วมันต่างกันยังไงงั้นเหรอ
สำหรับ Wynia แล้ว มันแปลว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้เป็นเครื่องจักรสังหารที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม เหมือนลูกครึ่งระหว่างซอมบี้กับ Terminator และเพราะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา พวกมันจึงมีหลากหลายรูปร่าง พร้อมความสามารถที่แตกต่าง
"พวกมันไม่ได้เป็นซอมบี้กินสมองที่ไร้วิญญาณ ไม่มีหน้าตา ผมว่านี่แหละที่ช่วยเสริมลักษณะตัวละครให้พวกมันมากขึ้นหน่อย"
ความแตกต่างดังกล่าวหมายความว่า ขณะที่วิดีโอเกมเกี่ยวกับซอมบี้เป็นหลักจะมีหนังซอมบี้หลายเรื่องเป็นแรงบันดาลใจ แต่ทีมงานที่ Tripwire ได้แรงบันดาลใจจากคลังความสยดสยองที่กว้างกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแนวสยองขวัญบนร่างกาย
"ผมต้องบอกว่า ในแง่ของการออกแบบเกมและการสร้างโลกเนี่ย มีการพิจารณาเนื้อหามากมายอย่างเช่น The Thing" Wynia กล่าว
Wynia กล่าวว่าทีมใช้เวลาอย่างมากไปกับการเฝ้าดูผลงานสร้างสรรค์ของหลายๆ คน อย่าง David Cronenberg ผู้กำกับและนักเขียน ผู้ถือว่าเป็นผู้สร้างแนวสยองขวัญบนร่างกาย
"มีการตรวจสอบว่าองค์ประกอบอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ" เขากล่าว
แม้ว่าผู้สร้าง Killing Floor 3 จะสร้างเกมสยองขวัญบนร่างกายที่มั่นหมายจะฆ่าคุณ แต่บรรยากาศของเกมนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากแนวแอ็กชั่นสยองขวัญมากกว่า นั่นรวมถึงการชมภาพยนตร์อย่าง Aliens และ Predator ที่มีกลุ่มคนไม่กี่คนเผชิญหน้ากับฝ่ายอธรรมที่ไม่มีทางเอาชนะได้
ซึ่งยังนำไปสู่หนึ่งในองค์ประกอบหลักของการออกแบบ Killing Floor 3 โดยทีมอยากสร้างเกมที่ยังคงรักษาสมดุลของเหล่าผู้เล่นที่หมิ่นเหม่ต่อความตายและแทบจะเอาชีวิตไม่รอด หากพลาด ผู้เล่นอาจรู้สึกหมดหวัง หรือถูกรุมเร้ามากเกินไป
"สมดุลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเกม" เขากล่าว "เราทดสอบการเล่นเป็นประจำทุกวัน โดยเราพยายามจะหาเกณฑ์จำนวน Zed ที่เหมาะสมว่าควรมีกี่ตัว ควรมีลูกกระสุนเท่าไหร่ ควรให้รางวัลตอบแทนผู้เล่นขนาดไหน"
ในการยกตัวอย่าง Wynia ชี้ไปที่ปืนลูกซอง มีจุดหนึ่งที่ปืนลูกซองในเกมอ่อนกำลังมากๆ และผู้เล่นก็ถูกฉีกอวัยวะเป็นชิ้นๆ แต่เมื่อทีมงานปรับให้ปืนมีพละกำลังมากขึ้น ผู้เล่นก็ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดในเกมอีกต่อไป
ทีมงานยังใช้เวลาอย่างมากไปกับการปรับวิธีควบคุมทรัพยากร เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เล่นจะทั้งคอยช่วยเหลือกันและกัน และยังคงตัดสินใจได้เหมาะสมเมื่อเป็นเรื่องของการอัปเกรดที่ต้องซื้อในแต่ละรอบ
โชคดีที่เราได้สัมผัสหลายๆ อย่างที่พูดคุยกับ Wynia ระหว่างการเล่นเกมในเวอร์ชันแรกๆ
เราได้ลองเกมเคียงข้างสื่ออื่นๆ จำนวนหนึ่ง และนักพัฒนาอีกคนสองคน เพื่อลองเอาตัวรอดจากฝูง Zed ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เซสชันการเล่นเริ่มต้นในป้อมปราการที่ผู้เล่นมีโอกาสเลือกคลาสผู้เชี่ยวชาญจากหกคลาส ผู้เล่นยังลุยและอัปเลเวลคลาสที่ว่าหลังจากเล่นในแผนที่แล้วได้อีกด้วย โดยรวมแล้ว เกมจะมี 30 ด่านสำหรับแต่ละคลาส รวมถึงสกิล 3 ประเภท โดยที่ผู้เชี่ยวชาญแต่ละรายจะมีสกิลมากกว่า 30 สกิล
Killing Floor 3 จะเปิดตัวพร้อมแผนที่เอาตัวรอด 7 แห่ง โหมดยาก 3 โหมด คลาสศัตรู 14 คลาส และการต่อสู้กับบอส 3 รอบ
เมื่อเลือกคลาสแล้ว คุณจะได้เลือกอาวุธในการเริ่มเล่น มีอาวุธ 36 ชนิดที่กระจายไปตามคลาสต่างๆ อาวุธหลัก 24 ชนิด อาวุธรอง 6 ชนิด และระเบิด 6 ชนิด และยังมีสุดยอดแกดเจ็ต 6 แบบ และอุปกรณ์ 6 ชนิด ทั้งยังปรับแต่งอาวุธด้วยม็อดกว่า 150 รายการได้ด้วย
หลังจากแต่งองค์ทรงเครื่องจนพร้อม คุณจะนั่งรถเพื่อมุ่งหน้าสู่ลานสังหาร
เหมือนเกมที่มอนสเตอร์เข้ามาเป็นระลอกๆ ส่วนใหญ่ ตัวเกมจะค่อนข้างง่ายในตอนแรก หลอกล่อคุณให้รู้สึกมั่นใจ แต่ไม่นานคุณก็จะรู้ตัวว่านั่นเป็นความคิดผิดๆ ที่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต
พวก Zed เริ่มโผล่ออกมาจากจุดที่คาดไม่ถึง โจมตีคุณจากสิ่งที่ Wynia ชอบเรียกว่า "รูโหว่" นับเป็นวิธียกระดับแอ็กชันและความน่าหวาดกลัวไปพร้อมๆ กันที่ดีทีเดียว และยังมีอีกหลากหลายวิธีที่ Zed จะเข้าถึงตัวคุณ บางตัวอาจจะไถลลงมาจากผนังด้านบน ห้อยออกมาจากช่องระบายอากาศ หรือกระทั่งทุบผนังออกมา เช่น Kool-Aid Man ที่มีกำปั้นหนามชั่วร้าย
ไม่นานคุณจะรู้ว่าต้องรักษาทีมไว้ใกล้ตัว ทั้งข้างๆ และด้านหลัง และมันจะกลายเป็นแมตช์ต่อเนื่องที่คุณต้องปกป้องและยิงปืนไปพร้อมกัน
ระหว่างแต่ละระลอก คุณจะมีโอกาสใช้เครดิตที่ได้มาเพื่ออัปเกรดอาวุธ ซื้ออาวุธเสริม หรือสลับไปใช้อาวุธประเภทอื่นได้ คุณยังต้องคำนึงถึงการใช้เงินก้อนนั้นด้วย จะเพิ่มระดับปืนหรือซื้อเกราะที่ดีขึ้นให้ตัวเองดีล่ะ
เซสชันเพียงไม่กี่เซสชันช่วยเน้นย้ำว่าทำไมแฟรนไชส์นี้ถึงโด่งดังนัก (Killing Floor 2 ได้รับการสนับสนุนจากนักพัฒนาเป็นเวลา 9 ปี และรักษาฐานแฟนคลับที่น่าประทับใจไว้ได้) เมื่อสตูดิโอโฟกัสกับการเล่นที่เฉพาะเจาะจง และคอยปรับปรุงสิ่งนั้นมาตลอด ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะเป็นประสบการณ์พิเศษที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ของแนวเกมที่ว่า
Killing Floor 3 ให้ความรู้สึกแบบนั้น
ที่น่าแปลกใจก็คือเกมนี้ยังสอดแทรกการเล่าเรื่องไว้อยู่บ้าง โดยเฉพาะแคมเปญสามองก์ที่ขับเคลื่อนโดยภารกิจการเล่าเรื่องในเกม
มันหน้าตาเป็นยังไงในตอนเล่นน่ะเหรอ
มันแปลว่าคุณเลือกได้ว่าจะเดินออกจากศึกระหว่างทีมคุณกับฝูง Zed เพื่อตามหาหรือพิชิตภารกิจ ที่เราเจอ เราต้องเดินไปเรื่อยๆ จนเจอไฟล์เสียงที่ขอให้ตามหาและรวบรวมหลักฐานระหว่างที่เล่นในแผนที่
การให้ผู้เล่นตัดสินใจว่าจะมีส่วนร่วมในเรื่องราวหรือไม่ และจะมีส่วนร่วมตอนไหน นับเป็นไอเดียที่ดี ทั้งยังช่วยสร้างไดนามิกในการแยกทีมออกจากกัน โดยผู้เล่นบางคนต้องออกตามหาเบาะแสในขณะที่คนอื่นๆ ต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอดโดยไม่มีพวกเขา
Wynia กล่าวว่าทีมงาน "ตื่นเต้นมาก" ที่จะได้เล่าเรื่องใหม่ๆ ภายในโลกของ Killing Floor แต่ก็ไม่อยากฉีกออกจากการต่อสู้ศัตรูเป็นระลอกที่อยู่คู่กับแฟรนไชส์
เกมมีการพากย์เสียงตัวละครและผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการเล่าเรื่องตามสภาพแวดล้อม แต่ทีมงานก็หยิบเอาสิ่งที่เรียกว่า "แคมเปญภารกิจที่พัฒนาตลอด" มาร่วมด้วย
"มันคือชุดวัตถุประสงค์ที่ผู้เล่นมี ซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่การสืบหาเบาะแสการสังหารหมู่ที่ฐานทัพทหารแนว Area 51 ไปจนถึงการค้นพบศพหลายร่างตามแผนที่ต่างๆ เพื่อร้อยเรียงเรื่องราวเข้าด้วยกัน สิ่งนี้ได้แรงบันดาลใจจากพวก SCP หรือ X-Files มามากเลย" Wynia กล่าว "ผมสนใจการเล่าเรื่องการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ผิดพลาดมากๆ"
เขามีคำแนะนำหนึ่งอย่างให้กับผู้เล่นใหม่ๆ ที่สนใจในเส้นเรื่องเหล่านี้
"ถ้าเล่นกับกลุ่มเพื่อน แล้วคุณอยากออกไปทำภารกิจขณะกำลังโดน Fleshpound โจมตี การฆ่าพวกมันก่อนแล้วค่อยตรวจสอบไฟล์บันทึกเสียงซึ่งนั่นน่าจะเป็นทางที่ดีกว่า" เขากล่าว "ในแผนที่ คุณมีอิสระที่จะดูภารกิจและวัตถุประสงค์ได้ทุกเมื่อตามใจ"
Killing Floor 3 ดำเนินเรื่องราวในปี 2091 ซึ่งเป็นเวลาหลายสิบปีหลังจากเหตุการณ์ของภาคก่อน และผู้เล่นยังคงต้องเผชิญหน้ากับผลงานของกลุ่มบรรษัทยักษ์ใหญ่ Horzine เนื้อเรื่องของเกมมีไว้เติมเต็มช่องว่างมากมาย เช่น ทำไมคุณจึงตกอยู่ในสถานที่ต่างๆ และแรงจูงใจของตัวร้ายบางตัวในเกม
เราถาม Wynia ถึงแนวโน้มการขยายจักรวาล Killing Floor ให้ไปไกลกว่าเกมการต่อสู้ศัตรูที่เข้ามาเป็นระลอก เขาเลือกที่จะไม่ตอบอะไร แต่บอกว่าโลกของ Killing Floor มีเรื่องราวมากมายรอให้บอกเล่าอยู่
"Nightfall เป็นกลุ่มสมาชิกทีมที่ใหม่มากๆ และเราได้เปิดตัวตัวร้ายใหม่อย่าง Moorcroft ที่คุณจะได้รู้เรื่องราวของเขาอีกเยอะ" เขากล่าว "ในอนาคต ผมคงสนใจในวิธีการใหม่ๆ ที่ทำให้เรายังคงบอกเล่าเรื่องราวและสร้างโลก Killing Floor ต่อไป"
Killing Floor 3 พร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว และ เวอร์ชันเบต้าจะมาในช่วงปลายเดือนนี้
พบกับอนาคตแห่งวงการเกม: ตัวอย่างเกมที่จะวางจำหน่ายบน Epic Games Store ในปี 2025
33 Immortals เผยให้เห็นว่าเกม โร้กไลก์ที่เล่นกัน 33 คนนั้นมีหน้าตาเป็นยังไงกันแน่