Hunger เป็นเกม RPG แนวหลบหนีที่ได้แรงบันดาลใจจาก Hunt: Showdown, Bloodborne และเกมอื่นๆ
30.6.2568
โดย Toussaint Egan ผู้เขียน
Hunger เป็นเรื่องราวของกลุ่มผู้รอดชีวิตในยุโรปยุคนโปเลียนที่ต่อสู้กับไวรัสคล้ายโรคพิษสุนัขบ้าล้างโลกที่ชื่อว่า Hunger (ตามชื่อเกม) ซึ่งได้แพร่ระบาดไปทั่วทั้งทวีป ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นหนึ่งใน 6 ผู้รอดชีวิต หรือที่รู้จักในชื่อ Living ที่ต้องสู้เพื่อปกป้องผู้อยู่อาศัย Chateau จากฝูงศัตรูผู้ติดเชื้อ Hunger นอกกำแพง Chateau ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากมหาวิหาร Mont-Saint-Michel ที่มีอยู่จริง นับเป็นหนึ่งในป้อมปราการแห่งสุดท้ายของมนุษยชาติที่ยังคงหลงเหลืออยู่
Living ออกสำรวจในฐานะฝ่ายต่างๆ ของ Chateau สะสมทรัพยากร ตีอาวุธใหม่ๆ และขุดคุ้ยหาต้นตอของโรคระบาด โดยหวังว่าจะสามารถกำจัดโรคร้ายแรงนี้ให้หายไปจากมนุษยชาติได้ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือเป็นกลุ่มสามคน ผู้เล่นจะได้ผจญภัยไปตามซากปรักหักพังบนโลกเพื่อตามหาควาามรุ่งโรจน์และการอยู่รอด

"ผมหลงใหลในยุควิคตอเรีย หรือยุคเรเนซองส์ แล้วก็พวกบรรยากาศโกธิกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว สิ่งเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวผมมานาน" Maximilian Rea กล่าว เขาคือ CEO แห่ง Good Fun Corporation และหัวหน้านักพัฒนา Hunger "ผมทึ่งกับทั้งแง่ของความหลากหลายในยุคนั้น และความลงตัวของความหลากหลายที่ว่าที่ผสานเข้ากับเรื่องเล่าพื้นบ้านและตำนาน"
Rea เสริมถึงแรงบันดาลใจที่มาจากผลงานก่อนหน้าของ Good Fun Corporation อย่าง Hell Let Loose ซึ่งทำให้พวกเขาสร้างจักรวาลที่เป็นของตัวเองขึ้นมา "ตอนที่ผมกับทีมกำลังทำ Hell Let Loose แน่นอนว่าเราอยากสร้างเกมที่สนุก แต่ก็หยิบเอาประวัติศาสตร์ที่สมจริงสุดๆ มาผูกไว้ด้วย ซึ่งแฟนเกมหลายๆ คนค่อนข้างใส่ใจเป็นพิเศษถึงความถูกต้องตามประวัติศาสตร์และความสมจริง" Rea กล่าว
"การดำเนินเรื่องราวของ Hunger ในยุคนโปเลียนมาจากความสนใจในประวัติศาสตร์ของผมและทีม" Rea กล่าวต่อ "แต่ไอเดียจักรวาลคู่ขนานนี้มาจากความคิดที่ว่า 'ถ้าเราสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อประวัติศาสตร์ได้ ในฐานะนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์ แทนที่จะยึดโยงกับประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงได้ล่ะ"
เมื่อถูกถามถึงแรงบันดาลใจในตอนแรกที่อยู่เบื้องหลังจักรวาลและโทนของ Hunger Rea พูดถึงหลากหลายต้นแบบที่ส่งอิทธิพล ซึ่งรวมถึงนิยายเรื่อง Perfume: The Story of a Murderer ของ Patrick Süskind เรื่อง The Draughtsman's Contract และ The Cook, the Thief, His Wife & Her Lover, ของ Peter Greenaway และนิยาย One Hundred Years of Solitudeของ Gabriel García Márquez

"มีงานนวนิยายจำนวนมากที่ดำเนินเรื่องในยุคนโปเลียน หรือในยุคใกล้ๆ กัน ที่ผมคิดว่ามันมีความประหลาดในแบบของตัวเอง แม้ว่าจะตัดองค์ประกอบแฟนตาซีใดๆ ออกไปแล้วก็ตาม” Rea กล่าว "ผมว่าเราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าแฟนตาซีและนิยายวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดมักจะมีความคล้ายคลึงกับประวัติศาสตร์และการเมืองมากที่สุด เพราะเราจะเข้าใจถึงการวางตำแหน่งของหมากแต่ละตัว แล้วเราก็เฝ้าดูพวกมันโต้ตอบกันเองได้" Game of Thrones เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ โดยหยิบเอาสถานการณ์ต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ยุคกลางมาเล่า และทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนหน้าจอมีความสมจริงมากขึ้น"
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลจากประวัติศาสตร์ยังไม่หมดแค่นั้น Rea อธิบายสไตล์งานภาพของ Hunger ว่าเป็น "โกธิคยุคเรอเนซองส์" ที่หยิบแรงบันดาลใจจากศิลปินหลากหลายราย ทั้งในยุคนั้นและผู้สืบทอดแนวศิลปะเหล่านี้ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงยุคนั้น และยังเอื้อให้ทีมพัฒนาคิดนอกกรอบด้วย
"Caravaggio เป็นหนึ่งในศิลปินคนโปรดของผม" Rea กล่าว “เขาเป็นจิตรกรยุคเรอเนสซองส์ที่ทำให้การใช้เทคนิคการใช้เงามืดปกปิดสิ่งที่ไม่ใช่การกระทำของฉาก และการใช้ความรุนแรงสุดขั้ว กลายมาเป็นเทคนิคที่โด่งดัง เขามีผลงานภาพวาดที่ดังมากๆ อยู่ เป็นภาพ Judith กำลังตัดหัว Holofernes" Rea ยังกล่าวถึงจิตรกรชาวอังกฤษในยุควิกตอเรีย เช่น John Everett Millais รวมทั้งปรมาจารย์ด้านการวาดภาพทิวทัศน์ชาวดัตช์ ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลต่อตัวละครและการออกแบบสิ่งแวดล้อมในผลงาน Hungerอีกด้วย
หลังจากที่ก้าวออกมาจาก Hell Let Loose Rea และทีมของเขาก็เริ่มคิดถึงสิ่งที่อยากทำต่อ แน่นอนว่าทีมหันมาสนใจเกมยิงแนวหลบหนีที่ค่อนข้างจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
“เราเล่นเกมยิงแนวหลบหนีมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเกมใหญ่หรือเกมเล็ก" Rea กล่าว "แรงบันดาลใจหลายๆ อย่างที่เราเจอไม่ได้มาจาก Delta Forces และเขตปลอดทหารบนโลกของเราขนาดนั้น แต่มาจาก The Cycle: Frontier, Marauders, Hunt: Showdown และแน่นอนว่า Escape from Tarkov ที่เป็นต้นแบบให้เกมเหล่านี้ เราคิดหนักมากว่าเราจะหยิบเอาความรักในประวัติศาสตร์และแฟนตาซีมารวมเข้ากับความพึงพอใจที่ได้จากเกมยิงแนวหลบหนียังไง"

แม้จะมีจุดคาบเกี่ยวเหล่านี้ แต่ Rea และทีมก็ไม่ได้จัดประเภท Hunger ว่าเป็นเกมยิงแนวหลบหนีอย่างเดียวแบบเจาะจง "แนวคิดโดยย่อของ Hunger ไม่ใช่การสร้างเกมยิงแนวหลบหนีที่เน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นการใช้รูปแบบการเล่นของการหลบหนีในแบบเดียวกันกับที่ Diablo ใช้ลูปเกมเพลย์การหลบหนี แต่ไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นเกมแนวหลบหนี” Rea กล่าว “Hunger เป็นเกม RPG มัลติเพลเยอร์ในมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่มีประสิทธิภาพ มีทั้งผังพัฒนาทักษะ อาวุธหลากหลายตัวเลือก พร้อมการสุ่มไอเทมมากมาย และไอเทมที่สุ่มได้อีกเพียบ ทั้งอุปกรณ์ ไอเทมสำหัรบฮีล คราฟต์ และของตกแต่ง ที่ใช้รูปแบบหลบหนีแทนการใช้รูปแบบเกมแนวเส้นตรง หรือโอเพนเวิลด์"
หรือก็คือ Hunger คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราเอา Hunt: Showdown, Bloodborne และ Kingdom Come: Deliverance มารวมเข้าด้วยกันจนได้เป็นเกม RPG สยองขวัญแบบทุ่มสุดตัว
สำหรับ Rea ความแตกต่างนี้ นอกจากจะสำคัญต่อการทำความเข้าใจในเกม Hunger และสิ่งที่ตัวเกมนำเสนอให้ผู้เล่นแล้ว มันยังสำคัญต่อการเข้าถึงแนวเกมย่อยของเกมแนวหลบหนีด้วย “ผมรู้สึกว่าเกมยิงแนวหลบหนีเป็นเกมแนว roguelike แบบมัลติเพลเยอร์ประเภทหนึ่ง ตรงที่คุณพยายามดำดิ่งลงไปในแนวเกมเดิมที่ดูเหมือนว่าจะให้ประสบการณ์แบบเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า” Rea กล่าว
เขายกตัวอย่างเป็นเกม Hades, Risk of Rain 2 และ Slay the Spire ที่อาจจะไม่ได้ตรงคำจำกัดความแบบลงรายละเอียดสำหรับเกมแนวหลบหนี แต่ยังคงให้ความหลากหลายและอิสระในการแสดงออกเช่นเดียวกับเกมยิงแนวหลบหนี
"ผมเลยคิดว่ามันเป็นไอเดียที่แบบว่า เดี๋ยวนะ เรานำเสนอสภาพแวดล้อมแบบเดียวกัน แล้วเผยให้คนเห็นวิธีการค้นพบและโต้ตอบกับมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แทนที่จะปล่อยให้ทีมงาน 700 คนสร้างเกมโอเพนเวิลด์ขนาดยักษ์ที่เหลือเชื่อ" Rea กล่าวต่อ

Good Fun Corporation ตั้งเป้าที่จะเปิดตัว Hunger ในรูปแบบเกมเล่นระหว่างพัฒนาบน Epic Games Store ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และทีมงานกำลังเตรียมการใหญ่สำหรับการเปิดตัวเกมด้วยเนื้อหาที่เล่นได้ โดยจะมีตัวละครที่เล่นได้ 6 ตัว แต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านความสามารถติดตัว กลยุทธ์ และท่าไม้ตายต่างๆ ซึ่งออกแบบมาให้ผู้เล่นเริ่มทดลองเล่น ก่อนสนับสนุนให้ผู้เล่นออกนอกเส้นทางปกติเพื่อสร้างสรรค์รูปแบบการเล่นเฉพาะตัวของตนเอง
“สิ่งที่เรากำลังทำกับตัวละครแต่ละตัวคือการพยายามมุ่งเป้าไปที่ตัวละครที่มีลักษณะแม่แบบประจำยุคในแบบที่ต่างออกไป และแต่ละตัวจะเหมาะกับบทบาทแบบคร่าวๆ แต่ไม่ยึดติดจนเกินไป" Rea กล่าว "หลายๆ ครั้งที่ความสามารถติดตัว ความสามารถเชิงกลยุทธ์ และท่าไม้ตายที่คุณทำได้ยังเป็นสิ่งที่อยู่บนผังพัฒนาทักษะเหมือนกัน หรือเป็นสิ่งที่อาหารหรือเครื่องดื่ม (ซึ่งเป็นไอเทมในเกม) ทำได้เหมือนกัน"
การเปิดตัวช่วงเล่นระหว่างพัฒนา ของ Hungerจะเปิดตัว Hugo อดีตขุนนางฝรั่งเศสและขุนนางยึดถือสุญนิยม, Eva นักฆ่าและหัวขโมยที่เติบโตในย่านสลัมของปารีส, Serene ผู้รอดชีวิตจากการกบฏของทาสซึ่งมาจากเกาะ Santa Dominga, Marie หรือ “แม่ชีนักรบ” ที่สืบเชื้อสายมาจากนิกาย Cistercian ที่ซ่อนตัวอยู่สูงบนภูเขา, Gabriel ทหารม้าหน่วยรบพิเศษของกองทัพใหญ่ของนโปเลียนที่เชื่อว่าผู้มีศักดินามีหน้าที่ต้องช่วยเหลือผู้อ่อนแอกว่า และทหารรับจ้างชาวปรัสเซียผู้มีชื่อเสียงซึ่งคอยช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่นๆ ด้วยการเข้าถึงการสร้างและซ่อมแซมชุดเกราะ
"สิ่งสำคัญสำหรับเราคือตัวละครของเราไม่มีใครเห็นใจใครสักคนเลย" Rea กล่าว "การจะอยู่รอดในสถานที่แห่งนี้ต้องอาศัยความอดทนอันเหลือเชื่อ ความโหดร้ายในระดับหนึ่ง และพูดตรงๆ คือต้องมีความเห็นเเก่ตัวอยู่บ้าง ความสามารถในการมองข้ามความพ่ายแพ้แล้วไปต่อ คุณมีกลุ่มคนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้จริงๆ และเราได้ทำงานกันอย่างหนักเพื่อพยายามทำให้พวกเขาแต่ละคนรู้สึกมีเหตุผลว่าพวกเขาจะรอดจากการทดสอบที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้ พวกเขาทุกคนล้วนมีความคลุมเครือเหมือนกับพวกเราทุกคน และเราอยากสัมผัสหลากหลายพื้นเพทางวัฒนธรมที่แตกต่างกัน"
ระดับความคิดและความตั้งใจเดียวกันที่มุ่งเน้นไปที่การออกแบบและภูมิหลังของตัวละครผู้เล่นใน Hungerถูกนำมาใช้กับศัตรูเช่นกัน โดยแต่ละตัวได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอันตรายที่แตกต่างกัน ลำดับชั้นของศัตรูที่คุณจะพบในเกม ได้แก่ Dregs (ศัตรูที่คล้ายซอมบี้ทั่วไป), Shambler (ศัตรูที่มีลักษณะคุกคามเทียบเท่ากับผู้เล่นที่สวมเกราะเต็มรูปแบบ มีมือขนาดใหย่ที่หักและเต็มไปด้วยตะปู), Waif (ผู้ที่วิ่งไปมาบนชั้นและฟาดขาของผู้เล่นเพื่อสร้างความเสียหาย), Bloat (ระเบิดกระจายแก๊สพิษ), Drooler (ยิงกระสุนปืนด้วยลิ้น) และ Brute ศัตรูขนาดใหญ่ที่สร้างความเสียหายหนัก

ศัตรูต้นแบบทั้งหกนี้จะปรากฏขึ้นในช่วงการเปิดตัว Hungerในช่วงเล่นระหว่างพัฒนา โดยมีแผนที่จะแนะนำ Hunger ประเภทใหม่ๆ อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นไม่นาน พร้อมเพิ่มฝ่ายต่างๆ ในเกมด้วย
"ไอเดียมาจากการที่เราหวังว่าจะยังคงเซอร์ไพรส์ และสร้างความกลัว รวมถึงท้าทายผู้เล่นอย่างต่อเนื่องได้" Rea กล่าว เหมือนกับตัวละครผู้เล่นทั้ง 6 ตัว Hunger แต่ละประเภทจะมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเอง โดยจะสำรวจลักษณะของโรคและผลกระทบที่โรคนี้ส่งผลต่อผู้ที่ติดเชื้อ "ความสยองขั้นเลวร้ายที่สุดคือเวลาที่คุณเคยรู้จักคนคนหนึ่งมาก่อน การจะสังหารซอมบี้นับล้านตัวนั้นยากกว่ามาก ถ้าคุณรู้ชื่อ อายุ ความหวัง และความฝันของซอมบี้ทุกตัว นั่นเปลี่ยนสมการในทางที่เลวร้ายมากๆ ซึ่งเราคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงความน่ากลัวของความเป็นจริงนี้ได้เต็มที่"
ด้วยคลังอาวุธที่มีมากกว่า 30 ชนิด ฮับโซเชียลที่คึกคักและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และแผนที่ 3 แผนที่ (ในขอบเขต 1x1 กิโลเมตร) ที่พร้อมให้เล่นเมื่อเปิดตัว Hunger ดูเหมือนว่าจะเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แฟนๆ เกม RPG และเกมยิงแนวหลบหนี ในขณะที่เปิดให้เล่นระหว่างพัฒนาในปีนี้ เมื่อพิจารณาระยะเวลาของช่วงเปิดให้เล่นระหว่างพัฒนาแล้ว Rea คาดการณ์ว่า Hunger จะใช้เวลาประมาณสองปีหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกเพื่อพัฒนาไปให้ถึงเวอร์ชัน 1.0
"สำหรับเราแล้ว การทำให้เกมเล่นระหว่างพัฒนาเสร็จสิ้นนั้นคือการมั่นใจว่าจะมีตอนจบที่ลุ่มลึก เข้มข้น และน่าติดตามอย่างยิ่งให้ผู้เล่นได้เล่นกัน" Rea กล่าว "เราจะเปิดตัวประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แต่เราอยากมีประสบการณ์ PvP ที่เฉพาะเจาะจงและประสบการณ์ PvE ที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับตอนจบของคุณ เราอยากให้มีตัวละครให้เลือกมากมาย รวมถึงมีเครื่องมือ อาวุธ และแผนที่แบบครบมือในเกมด้วย"
Hunger จะเปิดตัวให้เล่นระหว่างพัฒนาบน Epic Games Store ในปีนี้