บทสัมภาษณ์ Sniper Elite: Resistance: บุกแดนศัตรู
6.1.2568
โดย Francisco Dominguez ผู้เขียน
Resistance จะพาไปบุกแดนศัตรูอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นในหมู่กลุ่มกบฏต่างๆ ที่ปฏิบัติการโดยขบวนการต่อต้านฝรั่งเศส Beck Shaw หัวหน้านักออกแบบด่าน กล่าวกับ Epic Games ว่า Harry จะแทรกซึมเข้าไปในเขตลียงที่เต็มไปด้วยเนินเขาของเมืองโฟวิแยร์ ทำการโจมตีระเบิดเขื่อนในเทือกเขาแอลป์ สะกดรอยตามผู้คนในปราสาท คฤหาสน์ และไร่องุ่น อีกทั้งก่อวินาศกรรมในพื้นที่ของการรถไฟ ซึ่งเป็นที่กักเก็บรถไฟหุ้มเกราะพร้อมอาวุธอันทรงพลังของเยอรมนี โดยเขาทำทั้งหมดนี้เพื่อตามล่าอาวุธพลังทำลายล้างสูงอย่าง Nazi Wunderwaffe
การยิงสไนเปอร์และการชมวิวมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน ด้วยขนาดแผนที่ของ Sniper Elite ที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไปถึงจุดชมวิวสูงๆ ผู้เล่นจะได้เห็นวิวที่สวยงามตระการตายิ่งกว่าเดิม อีกทั้งจะมีแนวสายตาที่ปลอดโปร่งสำหรับการเล็งยิงและฆ่าทหารราบของเยอรมันที่ลาดตระเวนอยู่ Shaw ต้องการสร้างเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงเหมือนในด่านยอดนิยมด่านหนึ่งของ Sniper Elite 5 ซึ่งตั้งอยู่ในมง-แซ็ง-มีแชล มหาวิหารอายุพันปีบนเกาะกลางน้ำ (และเป็นแรงบันดาลใจสำหรับ Minas Tirith ใน The Lord of the Rings ของ Peter Jackson) "ด่านนี้อยู่ในความทรงจำของผู้เล่นหลายคน ผมว่า Sniper Elite: Resistance มีหลายด่านที่จะทำให้ผู้เล่นเกิดความรู้สึกว้าวเช่นกัน" Shaw กล่าว
การสร้างเกมแซนด์บ็อกซ์ยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อมีแผนที่ขนาดใหญ่ การออกแบบ Sniper Elite จึงสามารถทำได้อย่างอิสระมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการทดลองสไตล์การเล่นและวิธีการพิชิตเป้าหมายหลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลอบเร้น การซุ่มยิงอย่างมีระบบ หรือการโจมตีอย่างบ้าระห่ำด้วยเครื่องยิงจรวดและระเบิดมือ "เราได้สร้างจุดสนใจหลายจุดรอบๆ ด่านพร้อมเป้าหมาย จากนั้นเราปล่อยให้ผู้เล่นเลือกเล่นเอง" Shaw กล่าว "ในการเล่นครั้งหนึ่ง คุณอาจเลือกการเข้ายิงถล่ม ในการเล่นครั้งต่อไป คุณอาจเลือกที่จะเข้าไปเงียบๆ และหาทางลอบไปด้านหลังและเข้าพิชิตเป้าหมายจากมุมการเล่นอื่นๆ เมื่อเล่นอีกครั้ง คุณอาจเน้นการซุ่มยิงและพยายามกำจัดศัตรูให้มากที่สุดก่อนที่จะเข้าพิชิตเป้าหมาย"
Shaw กล่าวว่า แม้ว่าแต่ละด่านจะมีขนาดใหญ่ แต่การออกแบบด่านจงใจที่จะไม่ให้นักซุ่มยิงได้รับการกำบังมากเกินไป คนที่ชอบการซุ่มยิงจึงชะล่าใจไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามใช้เสียงแวดล้อมหรือเสียงเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากลบเกลื่อนเสียงกระสุนมากแค่ไหนก็ตาม "ไม่มีจุดซุ่มยิงใดที่ได้รับการกำบังร้อยเปอร์เซ็นต์" เขากล่าว "โดยทั่วไปแล้ว หากคุณอยู่ในจุดซุ่มยิงใด จุดนั้นจะอยู่ในแนวสายตาของจุดซุ่มยิงอีกสองหรือสามจุด ดังนั้นคุณต้องระวังตัวไว้ คุณต้องยิงแล้วย้ายที่ เพราะหลังจากที่ยิงออกไปแล้ว ทุกคนจะรู้ว่าคุณอยู่ไหนจากร่องรอยกระสุนและวิถีกระสุน"
การซุ่มยิงในเกมจะมอบความรู้สึกสมจริง แต่จะมีความเกินจริงอยู่บ้างเพื่อหาจุดสมดุลระหว่างความแม่นยำในชีวิตจริงและการยิงสไตล์เกมตู้ ด่านต่างๆ ในเกมแซนด์บ็อกซ์ที่เข้มข้นมักไม่ได้มีขนาดใหญ่มโหฬารอย่างที่เห็นในเกมอย่าง Call of Duty หรือ PUBG ซึ่งมีการยิงในระยะไกลมากจนแรงโน้มถ่วงจะทำให้กระสุนตกลงมา
"คุณต้องคำนึงถึงลมด้วย [ในระดับความยากบางระดับ] แต่ลมก็ไม่ได้มาเป็นระยะหรือเปลี่ยนทิศทางตลอด ลมจะค่อนข้างคงที่สำหรับการเล่นรอบนั้นๆ" Shaw กล่าว "ดังนั้นคุณสามารถทำความคุ้นเคยกับลมและปรับการยิงของคุณให้เหมาะกับด่านที่เล่นอยู่ได้อย่างรวดเร็ว"
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเล่นสไตล์ลอบเร้นของซีรีส์เกมนี้มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เล่นสามารถเลือกเล่นในสไตล์เกมแอ็กชันลอบเร้นดั้งเดิมอย่าง Metal Gear Solid ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแอบมุมตึก การตะครุบระยะประชิด การลากร่างของศัตรูเข้าไปยังซอยเปลี่ยว หรือการยิงในระยะปานกลาง ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับตัวเลือกใหม่ๆ ในการเคลื่อนไหวที่เพิ่มเข้ามาใน SE5 โดยผู้เล่นสามารถใช้การยกตัวขึ้น การปีนป่าย และการโหนซิปไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แม้ว่าจะมีแนวการเล่นใหม่ๆ ให้เลือกมากมายที่ดูเผินๆ แล้วน่าตื่นเต้นอยู่ แต่ Shaw เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เกม Sniper Elite โดดเด่นในการส่งเสริมสไตล์การเล่นแบบซุ่มยิงอย่างมีระบบคือ กล้องสังหาร ฟีเจอร์สุดโหดนี้น่าสยดสยอง แต่ถือว่าเป็นความโดดเด่นหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของซีรีส์เกมนี้ ฟีเจอร์นี้จะให้รางวัลกับการซุ่มยิงที่สังหารสำเร็จด้วยการฉายภาพซ้ำแบบสโลโมชัน พร้อมภาพเอ็กซ์เรย์ที่จำลองความเสียหายทางกายภาพที่เกิดจากกระสุนของคุณ คุณจะเห็นหัวกะโหลกแตกกระจาย ลูกตาถูกเจาะ และอวัยวะอื่นๆ ของร่างกายแหลกเหลว Shaw สังเกตว่าผู้เล่นมักชอบที่จะเล็งไปที่ลูกอัณฑะ ซึ่งได้รับการจำลองอย่างละเอียดและมีการแสดงผลที่น่าสนใจของกระสุนที่แฉลบกระดูกไป
นี่คือรางวัลสุดพิเศษสำหรับการซุ่มยิงที่ต้องใช้ทักษะสูง การยิงในระยะ 1,000 เมตรโดยไม่เปิดการช่วยเหลือ แรงโน้มถ่วง หรือลมใดๆ นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่องและควรค่าแก่การเฉลิมฉลองด้วยพลุจากอวัยวะมนุษย์ ภารกิจต่างๆ อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะทำสำเร็จเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย (และสมจริง) มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ตัว Shaw เองไม่เลือกเล่นระดับ Authentic ซึ่งเป็นระดับความยากสูงสุด
ปัญหาหนึ่งของการรองรับรูปแบบการเล่นทุกรูปแบบคือผู้เล่นอาจเกิดความสบายตัวเมื่อพบสไตล์การเล่นที่เหมาะกับตัวเอง Sniper Elite 5 ทำให้ผู้เล่นเกิดความตื่นตัวด้วยการเพิ่ม Kill List ซึ่งเพิ่มการสังหารรูปแบบพิเศษสไตล์ Hitman ไปยังแต่ละด่าน โดยเป้าหมายหนึ่งอาจมีลักษณะการตายที่น่าสยดสยองเป็นพิเศษ เช่น การให้นักวางยาที่มีชื่อลือกระฉ่อนได้ชิมลางยาพิษของตัวเอง
นอกจากจะเพิ่มเป้าหมายใน Kill List แล้ว Resistance จะเพิ่มภารกิจ Propaganda ใหม่ๆ ด้วย เมื่อพบภารกิจ ภารกิจจะรีสตาร์ตด่านเป็นรูปแบบการแข่งความเร็ว โดยจะมีกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อสะสมคะแนนสำหรับกระดานผู้นำออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น ด่านนั้นอาจต้องเล่นแบบลอบเร้นเท่านั้น โดยผู้เล่นจะได้รับคะแนนสำหรับการหลีกเลี่ยงการถูกจับได้และจะได้รับเวลาเพิ่มสำหรับการสังหารแบบลอบเร้นแต่ละครั้ง นับว่าเป็นตัวอย่างล่าสุดของวิธีที่ Rebellion ใช้ในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นได้สำรวจสไตล์การเล่นที่หลากหลายในเกมได้อย่างเต็มที่
ฮีโร่อเมริกันจากสตูดิโออังกฤษ
ถึงเวลาแล้วที่ Harry จะได้แสดงศักยภาพของตนเองเสียทีในปีที่ 20 ของซีรีส์เกมนี้ ผมอดถามไม่ได้ว่า ทำไมจึงเลือกตัวเอกเป็นชาวอเมริกัน (ที่มีเชื้อสายเยอรมัน) ตั้งแต่แรกทั้งๆ ที่ Rebellion เป็นสตูดิโออังกฤษ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นก่อนที่ Shaw จะเข้ามาทำงานกับทางสตูดิโอ แต่เขาคิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเพื่อดึงดูดผู้เล่นชาวอเมริกัน และอีกส่วนหนึ่งคือโอกาสอันชาญฉลาดที่ซีรีส์เกมนี้จะได้ใช้เทคโนโลยีการทหารที่หลากหลายจากกองอาวุธลับของทั้งกองทัพสหรัฐอเมริกาและกองทัพสหราชอาณาจักร
Rebellion ให้ความสำคัญกับอาวุธที่ใช้อย่างยิ่ง ซีรีส์เกมนี้ได้รับความชื่นชอบจากกลุ่มแฟนเกมที่สนใจเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่สอง โดยแฟนเกมกลุ่มนี้พึงพอใจกับความใส่ใจในความถูกต้องของข้อมูลที่เกมนำเสนอ ทางสตูดิโอได้นำความรู้ที่เจาะลึกและคอลเลกชันอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ของ Royal Armouries มาใช้ในการพัฒนาเกม ทางทีมเสียงและแอนิเมชันของสตูดิโอได้ใช้อาวุธจริงจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สองหลายครั้งเพื่อสร้างไฟล์เสียงที่สมจริงจากระยะการยิงต่างๆ
"พวกเขาได้เสียงกระสุนที่มีเสียงดังฟังชัดจากระยะไกล อีกทั้งการยิงระยะใกล้ก็ได้ความดังและความก้องที่น่าพอใจเช่นกัน ผมว่าทางทีมสนุกกับงานนี้กันมาก" Shaw หยุดพูดสักครู่ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ที่จะเสริมว่า "และพวกเขาก็ระมัดระวังในการใช้อาวุธอยู่"
หนึ่งในตัวอย่างใหม่ๆ ที่เขาชอบใน Resistance คือปืน M1 Garand ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติของสหรัฐอเมริกาที่นายพลจอร์จ เอส. แพตตันเคยกล่าวขานว่า "อาจเป็นอุปกรณ์การสู้รบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการคิดค้นขึ้นมา" บางทีเขาอาจจะเหมือน Shaw ที่พึงพอใจกับเสียงก้องของการยิงกระสุนรอบสุดท้าย "ผู้ที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่สองคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียงปืนนี้เป็นหนึ่งในเสียงปืนที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด" Shaw กล่าว
เรื่องราวของขบวนการต่อต้านฝรั่งเศสทำให้มีคอลเลกชันอาวุธใหม่ๆ ที่อิงจากคลังแสงสรรพาวุธของขบวนการต่อต้านจริง โดยรวมถึงปืนไรเฟิล Berthier 1916 ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธหลักของ Harry ด้วย ปืนทหารส่วนเกินระบบลูกเลื่อนรุ่นเก่านี้เป็นปืนอเนกประสงค์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในกองทัพฝรั่งเศสและหน่วยรบในขบวนการต่อต้านฝรั่งเศส เนื่องจากมีการขาดแคลนอาวุธที่ใหม่กว่าและเชื่อถือได้มากกว่าอย่าง MAS-36
สิ่งที่ทำให้อาวุธเหล่านี้ต่างจากอาวุธในชีวิตจริง (อย่างมาก) คือระดับการปรับแต่งปืนที่ทำได้ อาวุธในประวัติศาสตร์อย่างปืน No. 4 Mk1 ของอังกฤษที่มีใน Sniper Elite 5 จะได้รับการจับคู่กับกล้องเล็งที่ได้รับการปรับเทียบให้ใช้งานด้วยกันโดยเฉพาะและมีหมายเลขซีเรียลเดียวกัน แต่ตอนนี้ซีรีส์เกม Sniper Elite ได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกใช้และจับคู่กันได้ตามใจชอบ ปืนต่างๆ มีการทำงานที่แตกต่างกัน แต่สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์การเล่นที่คุณต้องการได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นที่ชอบวิ่งไล่ยิงคนและมีอาวุธเสียงดังอาจต้องการแม็กกาซีนขนาดใหญ่กว่าเพื่อยืดระยะเวลาการทำลายล้าง
การดวลระยะไกล
ซีรีส์เกม Sniper Elite มีการเล่นแบบหลายผู้เล่นหลายแบบ ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นแคมเปญในโหมดเล่นร่วมกันแบบผู้เล่น 2 คนได้ อีกทั้งยังมีโหมดผู้เล่นปะทะผู้เล่น 16 คน และโหมดการเล่นร่วมกันแบบเอาชีวิตรอดด้วย มีซีรีส์เกมไม่กี่ซีรีส์ที่เหมาะที่จะเพิ่มฟีเจอร์ผู้เล่นหลายคนฟีเจอร์หนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากเกม Dark Souls นั่นคือ การบุกรุก หลังจากมีการเพิ่มลักษณะการเล่นแบบผู้เล่นปะทะผู้เล่นที่ผู้เล่นแต่ละคนมีบทบาทแตกต่างกันไปเป็นครั้งแรกใน Sniper Elite 5 ลักษณะการเล่นนี้กลายเป็นโหมดที่ผู้เล่นโปรดปรานอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่มีการนำการเล่นลักษณะนี้กลับมาใน Resistance ผู้เล่นสามารถเข้าร่วม Axis และเพิ่มความท้าทายให้กับ Harry ได้โดยการพยายามยิงเขาและกำกับ AI ของศัตรูให้มีความตื่นตัวเพิ่มขึ้นในตำแหน่งที่มีประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์
"ผู้เล่น Axis สามารถใช้ AI ให้เกิดประโยชน์ได้" Shaw กล่าว "ผู้เล่นสามารถใช้ AI เพื่อหาผู้เล่นฝ่ายสัมพันธมิตรเจอมากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้เล่นฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถนั่งรอและพยายามหาว่าผู้บุกรุก Axis อยู่ที่ไหน มีลักษณะการไล่ล่ากันพอสมควรและผมคิดว่าผู้เล่นชอบความท้าทายของความพยายามที่จะไล่ล่าผู้เล่นอื่นๆ หากคุณหนีพวกเขามาได้ พวกเขาอาจเดินผ่านคุณไป จากนั้นคุณสามารถยิงพวกเขาหรือแทงข้างหลังได้"
ฟีเจอร์นี้ต้องอาศัยวิธีใหม่ในการเล่นด่านต่างๆ สำหรับนักซุ่มยิงสองคน ไม่ใช่เพียงคนเดียว
"หากมีจุดชมวิวที่อยู่สูง จะมีจุดชมวิวอีกจุดที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแผนที่ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน คุณก็ไม่ปลอดภัย" Shaw กล่าว "ตอนนี้เรานำผู้เล่นที่บุกรุกเข้ามาเป็นปัจจัยในการออกแบบด่านและพยายามทำให้เป็นการแข่งขันที่สมดุลที่สุดระหว่างทั้งสองทีม"
ไม่ใช่เกมยิงยุคใหม่ทั่วไป
การใช้สงครามโลกครั้งที่สองเป็นฉากในเกมเริ่มได้รับความนิยมน้อยลงหลังผ่านช่วงทศวรรษ 2000 ซึ่งเป็นช่วงที่ภาพยนตร์ Saving Private Ryan และ Pearl Harbor ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและเกมอย่าง Medal of Honor และ Call of Duty กลายเป็นเกมยิงในมุมมองบุคคลที่หนึ่งเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ตอนนี้เกม CoD ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องเป็นยุคสมัยอื่นแล้ว ส่วนเกม Medal of Honor กลายเป็นเพียงความทรงจำที่เลือนลางสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่
สำหรับ Shaw สงครามครั้งนี้มีขนาดใหญ่ ยุคสมัยนี้จึงยังมีเนื้อหามากมายให้พูดถึง หลังจากเวลาร่วม 20 ปีของแฟรนไชส์นี้ Sniper Elite ยังมีเรื่องราวอีกมากที่แฟรนไชส์ยังไม่ได้ครอบคลุมถึง ในเวลานี้ แฟรนไชส์นี้ได้ไปเยือนอิตาลี ฝรั่งเศส และแอฟริกาเหนือ ส่วนเยอรมนีและรัสเซียมีการนำเสนอในเกมต่างๆ ก่อนหน้า การมีสถานที่ สถานการณ์ และอาวุธและเทคโนโลยีในสมรภูมิที่หลากหลายหมายความว่า Sniper Elite จะมีแหล่งข้อมูลใหม่ๆ ให้เก็บเกี่ยวไปได้อีกนาน
ความน่าสนใจของยุคสมัยนี้คือการที่สงครามในยุคนี้เป็นเรื่องราวของมนุษย์ก่อนที่การโจมตีด้วยโดรนและภาพดาวเทียมที่เชื่อถือได้จะถูกนำมาใช้ในศูนย์บัญชาการทหารจากระยะไกล "สงครามนี้เป็นสงครามสุดท้ายที่มีวิธีการสู้รบที่อาศัยมนุษย์จริงๆ เป็นครั้งสุดท้ายที่เรามีทหารหนึ่งคนในเขตแดนของศัตรูที่คอยสร้างความปั่นป่วนและก่อวินาศกรรม" Shaw กล่าว "แฟนเกมชื่นชอบปัจจัยนี้มาก เกมนี้ไม่ใช่เพียงเกมยิงยุคใหม่ทั่วไป กลไกต่างๆ มีความสมจริงมากกว่าและผมว่าผู้เล่นชอบที่เกมนี้ไม่ใช่การไล่ยิงกราดอย่างเหนือมนุษย์"
หนึ่งในข้อดีของการใช้สงครามโลกครั้งที่สองเป็นฉากคือมีกลุ่มนาซี ซึ่งเป็นกระสอบทรายที่มวลมนุษยชาติพร้อมรุมกระทืบเต็มที่ อย่างที่เราเพิ่งได้เห็นกันไปเมื่อไม่นานมานี้ในเกม Indiana Jones and the Great Circle ที่ Indiana Jones รัวหมัดใส่พวกนาซีไม่ยั้ง
"คุณทำอะไรก็ได้กับพวกเขา ทำอะไรก็ไม่ผิด จริงไหม" Shaw กล่าว แต่ในเวลาเดียวกัน ทางทีมก็พยายามที่จะสะท้อนความเป็นจริงของสงครามที่ผู้ทำการรบหลายคนเองก็ไม่ได้อยากมีส่วนร่วมด้วยเหมือนกัน กล้องส่องทางไกลของ Harry จะจับติดตามตำแหน่งและสถานะการตื่นตัวของศัตรูเป็นอันดับแรก แต่การสอดแนมเพิ่มเติมจะเผยให้เห็นถึงอาวุธและสิ่งของที่พวกเขามี รวมถึงตัวตนของพวกเขาในรูปแบบชีวประวัติ
"ชีวประวัติเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้เห็นอีกมิติหนึ่งของศัตรู" Shaw กล่าว "นอกจากนี้ การเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกว่าพวกเขาต้องการจัดการกับศัตรูแต่ละรายอย่างไรเป็นการส่งเสริมให้ผู้เล่นลองสไตล์การเล่นใหม่ๆ และลองเล่นซ้ำด้วยวิธีที่ต่างจากเดิม คุณอาจอ่านชีวประวัติของทุกคนแล้วรู้สึกว่า "เอาละ ฉันจะฆ่าคนพวกนี้แน่นอน เพราะพวกเขาเลวมาก" แต่สำหรับคนพวกนี้ คุณอาจเลือกทำให้พวกเขาหมดสติไปแล้วปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดต่ออีกวัน เพราะพวกเขาไม่ได้เลวร้ายขั้นสุด พวกเขาไม่ได้อยากอยู่ในสถานการณ์นี้ ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ที่คงไม่ได้อยากอยู่ในสถานการณ์นั้นเช่นกัน"
เมื่อ Harry Hawker ออกโรง พวกเขาจะอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกเขาต้องถอยหลังตกเป็นเหยื่อกลอุบายที่สร้างความเสียหายอย่างมาก หรือเป็นเพียงเหยื่ออีกรายจากการยิงระเบิดกะโหลกด้วยปืน Berthier
Sniper Elite: Resistance จะเปิดตัวใน Epic Games Store ในวันที่ 30 มกราคม